เวิลด์แบงก์คาด GDP เอเชียปีนี้ทรงตัว ไทยโตไม่ถึง3%

ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) เปิดเผยคาดแนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิคจะทรงตัว การขยายตัวของเศรษฐกิจจะชะลอลงเล็กน้อย แต่ก็ยังสูงกว่า 6% ไปจนถึงปี 2018 ขณะที่คาดไทยจะโตต่ำกว่า 3% ภาพรวมของแนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและ
แปซิฟิคส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง การขยายตัวของเศรษฐกิจโดยรวมจะชะลอลงเล็กน้อย แต่ยังจะสูงกว่า 6% ไปจนถึงปี 2018 แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนว่าดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ส่วนเศรษฐกิจจีนคาดว่าจะโตชะลอลงเหลือ 6.7% ในปี 2016 และอ่อนลงไปอีกเหลือ 6.3% ในปี 2018 บนสมมุติฐานว่าการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจจีนมีความคืบหน้าอย่างราบรื่น และรัฐบาลจีนใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหมาะสมเท่าที่จำเป็น สำหรับในส่วนอื่นของภูมิภาคนี้ การขยายตัวเศรษฐกิจคงจะเร่งตัวขึ้นอย่างช้าๆ แบบค่อยเป็นค่อยไป จากระดับเฉลี่ย 4.8% ในปี 2016 ไปถึง 5.2% ในปี 2018 ด้วยแรงหนุนจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่างอินโดนีเซีย มาเลเชีย และไทย จากปัจจัยราคาสินค้าคอมโมดิตี้ที่ถูกลงที่เป็นประโยชน์ต่อไทย ฟิลิปปินส์และเวียดนาม รวมทั้งภาวการณ์บริโภคที่แข็งแกร่งในฟิลิปปินส์ ในกลุ่มประเทศอาเซียนที่มีเศรษฐกิจกำลังพัฒนาขนาดใหญ่ เวียดนามและฟิลิปปินส์มีแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่สุด โดยคาดว่า GDP ฟิลิปปินส์จะเร่งตัวขึ้นไปถึง 6.4% ในปี 2016 ด้วยแรงหนุนจากโครงการลงทุนร่วมกันของภาครัฐบาลและเอกชนที่ทำเร็วขึ้น และอุปสงค์ในประเทศที่แข็งแกร่ง

        นอกจากนี้ ฟิลิปปินส์ยังได้รับอานิสงส์จากตลาดส่งออกที่กระจายไม่กระจุกตัวและราคาคอมโมดิตี้ที่ตกต่ำทั่วโลก ส่วนในเวียดนาม ตัวเลข GDP คาดว่าจะขยายตัวเฉลี่ยปีละ 6.3% ในช่วงปี 2016-2018 โดยทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจจะได้รับอานิสงส์จาการลงทุนโดยตรงที่คึกคักของต่างชาติ การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น และตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง เศรษฐกิจของไทยคาดว่าจะค่อยๆฟื้นไปตามสภาพความมั่นใจของนักลงทุนที่มีเพิ่มขึ้น แต่ตัวเลข GDP ของไทยน่าจะยังโตต่ำกว่า 3% ในช่วงปี 2016-2018 ตามแนวโน้มของการค้าโลกที่น่าจะชะลอตัวลง

ที่มาข้อมูลจาก: หนังสือพิมพ์มันนี่แชนแนล