สมคิดโวรัฐลงทุน 5.5 ล้านล้าน บี้เอกชน-ต่างประเทศร่วมมือ

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในการปาฐกถาพิเศษหัวข้อ อนาคตไทยกับทศวรรษใหม่แห่งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ที่จัดโดยศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในสถานการณ์ไม่ปกติ การลงทุนของภาครัฐจึงเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ ซึ่งจากนี้ภาครัฐจะมีการลงทุนปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไม่ต่ำกว่า 5.5 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม กับการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานใกล้เคียงกันถึงปี 65 อย่างละ 2.5 ล้านล้าน บาท และการลงทุนเศรษฐกิจดิจิตอลใน 5 ปี อีก 5 แสนล้านบาท โดยครึ่งปีหลังเป็นต้นไปจะเห็นการลงทุนของภาครัฐอย่างเข้มข้น โดยในเดือนมิถุนายน จะเห็นรถไฟฟ้า 3 สายเปิดประมูลแน่นอน ได้แก่สายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง สายสีชมพูแคราย-มีนบุรี และสายสีส้มศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี และในวันที่ 10 มิถุนายนนี้ จะไปหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อผลักดันโครงการลงทุนเพิ่มเติมอีก นอกจากนี้ยังได้มีการหารือกับกลุ่มรัฐวิสาหกิจ เพื่อเร่งผลักดันการลงทุน ซึ่งบริษัท ปตท. มีเงินลงทุนด้านพลังงานอีก 2 แสนล้านบาท รวมถึงการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ก็จะลงทุนอีก 2 แสนล้านบาท ไม่นับการลงทุนด้านดิจิตอล ซึ่งปีนี้จะมีการลงทุนอีกแน่นอน 15,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม แม้ในไตรมาสแรกภาครัฐมีการใส่เงินลงทุนเพิ่มขึ้นแล้ว 10% กว่า แต่เศรษฐกิจก็ยังเดินไม่เร็วพอ เพราะทางเอกชนไทยยังลงทุนน้อยอยู่ไม่ถึง 19% ของจีดีพี น้อยกว่าช่วงเกิดวิกฤติที่เคยโตถึง 35%  ของจีดีพี ซึ่งต่างจากเอกชนต่างประเทศที่มองไกลและกล้าลงทุนมากกว่าเพราะเชื่อมั่นว่าในอีก 10-20 ปีไทยจะดีแน่นอน ดัง นั้นจึงอยากให้เอกชนเข้ามาลงทุนกัน ซึ่งตอนนี้รัฐก็มีกระตุ้นมาตรการให้เอกชนมาลงทุนให้ลดหย่อนภาษีได้ ที่สำคัญในช่วงดอกเบี้ยขาลงแบบนี้ ถ้ายังไม่กล้าลงทุนตอนนี้จะไปลงทุนเมื่อไร จะมัวแต่ไปฝากแบงก์ก็มีเงินฝากจนท่วมแล้ว

ที่มาข้อมูลจาก: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์