4 เทคนิคช่วยให้แอร์รถเย็นเจี๊ยบหน้าร้อน

1.7K




     ใครๆก็ทราบดีว่าช่วงนี้อากาศในบ้านเราร้อนอบอ้าวขนาดไหน จนบางครั้งหนุ่มสาวออฟฟิศอย่างเราๆ แทบไม่อยากเดินลุยแดดออกไปทานข้าวกลางวันนอกตึกกันเลย

     แต่หลายคนก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องจอดรถสุดรักเอาไว้กลางแสงแดดร้อนเปรี้ยงแบบนี้ พอเปิดประตูขึ้นรถปุ๊ปก็ต้องรีบเบือนหน้าหนี เพราะไอร้อนที่พวยพุ่งจากภายในรถชนิดที่แทบจะใช้อุ่นกับข้าวได้เลยทีเดียว จึงขอแนะนำ 4 เทคนิคง่ายๆ ที่ช่วยให้แอร์ในรถของเราเย็นสบายในหน้าร้อนนี้กันครับ

 


รูปภาพจาก: servicingyourcartips.com

 

     1. ใช้ที่บังแดดทุกครั้งหลังจอดรถ

     แม้ว่ารถของเราจะมีฟิล์มกรองแสงที่ช่วยสะท้อน รังสี UV และความร้อนได้ขั้นหนึ่งแล้ว แต่ก็ควรมีที่บังแดดแบบพับได้ติดรถเอาไว้ด้วย เพื่อช่วยป้องกันความร้อนขึ้นไปอีกขั้น เพราะรถที่จอดกลางแดดไว้นานๆ จะมีความร้อนสะสมอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังช่วยยืดอายุที่เป็นพลาสติกบนแผงคอนโซล ไม่ให้แตกกรอบง่ายอีกด้วย

     2. เปิดกระจกทุกบานก่อนออกรถ

     หากต้องขึ้นรถที่จอดทิ้งไว้กลางแดด ก็ควรระบายความร้อนสะสมภายในรถออกไปเสียก่อน เพื่อช่วยให้รถเย็นเร็วขึ้น รวมถึงระบบแอร์จะได้ไม่ทำงานหนักเกินไป วิธีง่ายที่สุดก็คือการลดกระจกลงทั้ง 4 บาน แล้วขับไปสักครู่ เพื่อระบายความร้อนไปให้หมด หรือถ้าใครมีเวลาจะเปิดประตูทั้ง 4 บานเพื่อระบายความร้อนก็ไม่ว่ากัน

     3. เปลี่ยนฟิล์มกรองแสง

     ฟิล์มกรองแสงถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับรถยนต์ ในบ้านเรา ซึ่งฟิล์มกรองแสงต่างก็มีอายุการใช้งานด้วยกันทั้งสิ้น ทางที่ดีหากรู้สึกว่าแสงที่ผ่านเข้ามามีความร้อนเพิ่มขึ้นกว่าสมัยที่ออกรถใหม่ๆ ก็แปลว่าถึงเวลาเสียเงินติดฟิล์มใหม่ได้แล้วล่ะ

     4. ล้างแอร์เมื่อจำเป็น

     ระบบแอร์ของรถยนต์ในบ้านเรามีความสำคัญแทบไม่ต่าง ไปจากระบบเครื่องยนต์และระบบเกียร์เลย ก็ใครจะกล้าเอารถที่แอร์เสียมาวิ่งกลางกรุงเทพฯล่ะจริงมั๊ย ทางที่ดี หากรู้สึกว่าแอร์รถใช้ไปนานๆ เริ่มมีกลิ่นผิดปกติ ประกอบพัดลมแอร์ไม่แรงเหมือนแต่ก่อน ก็ควรหาเวลาล้างแอร์ได้แล้ว ซึ่งปัจจุบันก็มีวิธีการล้างหลายรูปแบบ ทั้งถอดตู้แอร์และไม่ถอดตู้

     ทางที่ดีควรให้ศูนย์บริการมาตรฐานเป็นผู้ล้างให้ หรือถ้าจะพึ่งอู่นอกก็ควรจะเลือกที่ไว้ใจได้นิดนึง เพราะการรื้อตู้แอร์ถือเป็นงานหิน ที่ต้องแกะชิ้นส่วนเป็นจำนวนมาก อาจทำให้วัสดุประเภทพลาสติกแตกหักได้


ที่มา: auto.sanook.com
รูปภาพ: รักษ์รถ.com

sendLINE

Comment