นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ รองอธิบดีกรมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า

ผู้ประกอบการธุรกิจไทยควรให้ความสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือสินค้าบริการภายใต้ตราสัญลักษณ์ "ทีทีเอ็ม" (ไทยแลนด์ ทรัสต์ มาร์ค) ที่จะเข้ามาช่วยเหลือ 3 ด้าน คือ
1.เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งกันของผู้ประกอบการไทยกับต่างประเทศ
2.เพิ่มความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
3.สร้างมาตรฐานสากล

ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม 2555- มิถุนายน 2558 มีผู้ประกอบการได้ตราสัญลักษณ์ทีทีเอ็มไปแล้ว 664 ราย โดยกลุ่มอุตสาหกรรมด้านอาหารมีจำนวนมากที่สุด 228 ราย จากผู้สมัคร 317 ราย อุตสาหกรรมหนัก 169 ราย จากผู้สมัคร 217 ราย อุตสาหกรรมไลฟ์สไตล์ 125 ราย จากผู้สมัคร 186 ราย อุตสาหกรรมแฟชั่น 48 ราย จากผู้สมัคร 95 ราย และอุตสาหกรรมอื่นๆ 79 ราย จาก 123 ราย ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมบริการ แบ่งเป็นอุตสาหกรรมสุขภาพ 4 ราย จาก 10 ราย ธุรกิจบริการด้านการศึกษา 5 ราย จาก 7 ราย ธุรกิจบริการด้านโรงพยาบาล/การแพทย์ 6 รายจาก 12 ราย ซึ่งจะตรวจสอบมาตรฐานของบริษัทที่ได้รับตราสัญลักษณ์ทุก 3 ปี โดยยอดรวมปัจจุบันของบริษัทที่มีตราสัญลักษณ์ดังกล่าว รวม 510 บริษัท คาดในปี 2559 มีผู้สนใจยื่นขอตราสัญลักษณ์กว่า 1,000 ราย

            อย่างไรก็ตาม ทางด้านนายคณานันต์ ตั้งสัมพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอราวัณฟูด กล่าวว่า บริษัทส่งออกสินค้าไปยังตลาดจีนเป็นตลาดหลัก คิดเป็นสัดส่วนกว่า 20% โดยก่อนหน้านี้บริษัทเผชิญปัญหาสินค้าลอกเลียนแบบ แต่จากการรับตราสัญลักษณ์ทีทีเอ็มจึงเข้ามาแก้ไขปัญหาด้านนี้ได้

ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ ทูเดย์
ภาพจาก: emineomedia

สนใจรับข่าวสารเกี่ยวกับอุตสาหกรรม สามารถ ADD Line

พิมพ์ @Thaipurchasing.com  เพื่อรับสิทธิพิเศษกิจกรรมต่างๆ ฟรีก่อนใคร