นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
เปิดเผยภายหลังการหารือกับอธิบดีกรมการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ กระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมแห่งญี่ปุ่น (เมติ) ว่า...

ได้หารือกันถึงการดำเนินการเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยญี่ปุ่นเสนอให้ไทยเป็นศูนย์กลางการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของอาเซียน ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามแนวคิดที่นายชินโซ อาเบะ ได้ประกาศเมื่อพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ในเรื่องการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในภูมิภาคเอเชีย 4 หมื่นคนภายในระยะเวลา 3 ปี ซึ่งญี่ปุ่นได้จัดสรรงบประมาณรองรับ 2.5 พันล้านเยน สำหรับการพัฒนาบุคลากรร่วมกันนี้ มีตั้งแต่การอบรมผู้บริหาร แรงงานทักษะขั้นสูง ไปจนถึงแรงงานทักษะขั้นต่ำ โดยญี่ปุ่นจะเป็นผู้ออกทุน และส่งผู้เชี่ยวชาญจากญี่ปุ่นหรือผู้ประกอบการญี่ปุ่นในไทยมาอบรมทักษะต่างๆ แก่คนไทย และเปิดให้แรงงานเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ลาว พม่า เข้ามาอบรมที่ไทย หรือไม่ก็จัดส่งผู้เชี่ยวชาญจากญี่ปุ่นและไทยไปให้ความรู้แก่แรงงานภาคอุตสาหกรรมในประเทศเพื่อนบ้าน

            อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การดำเนินงานพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ดังกล่าวบรรลุตามเป้าหมาย ญี่ปุ่นได้เสนอให้ไทยอำนวยความสะดวกในเรื่องวีซ่าและใบอนุญาตการทำงานในไทยให้คล่องตัวขึ้น กระทรวงพาณิชย์จึงจะประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้พิจารณาดำเนินการต่อไป โดยเห็นว่าความร่วมมือนี้จะช่วยลดการขาดแคลนแรงงานของไทย สนับสนุนการขับเคลื่อนเขตเศรษฐกิจพิเศษของไทย และยกระดับมาตรฐานแรงงานในภูมิภาคให้เป็นที่ยอมรับและมีมาตรฐานเดียวกัน