เร่งกำจัดขยะไฮเทค ดึงเอกชน-ต่างประเทศช่วย

1.6K




นายพสุ โลหารชุน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยถึง แนวทางการกำจัดกากอุตสาหกรรมว่า

วันที่ 1 เมษายนนี้ กรมโรงงานฯ เตรียมลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) กับภาคเอกชนไทย ที่ร่วมกับผู้ประกอบการต่างชาติ ตั้งโรงงานรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยรองรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้มากกว่า 50% จากปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ของไทยที่มีปีละ 25,000-30,000 ตันต่อปี และมีมาตรฐานการกำจัดขยะในระดับโลก ดึงโลหะมีค่าออกมาได้ทั้งหมดและกำจัดกากที่เหลืออย่างถูกต้องไม่ปล่อยมลพิษออกสู่สิ่งแวดล้อม จากปัจจุบันโรงงานรีไซเคิลของไทยส่วนใหญ่จะกำจัดบดย่อยขยะ และดึงโลหะมีค่าออกจำหน่ายเพียง 1-2 โรง ที่สามารถหลอมโลหะได้และเกือบทั้งหมดยังไม่มีความสามารถที่จะกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้ 100% สำหรับบริษัทฯนี้เป็นการร่วมลงทุนระหว่างผู้ประกอบการไทยกับต่างชาติอีก 2 ราย ซึ่งมีเทคโนโลยีการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก และยังถือว่าเป็นโรงงานกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัยที่สุดของไทย สามารถดึงโลหะมีค่าออกมาทั้งหมดและหลอมไปขาย ส่วนเศษเหลือทิ้งก็จะกำจัดได้หมด โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งจะเป็นมาตรฐานใหม่ในการตั้งโรงงานรีไซเคิลของไทยในอนาคต

            อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้ กรอ.จะเร่งรัดติดตามให้รถขนกากอุตสาหกรรม 3,400 คัน ทั่วประเทศ ต้องติดตั้งระบบจีพีเอส และเชื่อมต่อระบบฐานข้อมูลและติดตามการขนกากอุตสาหกรรม ให้แล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2559 เพื่อให้ติดตามนำกากอุตสาหกรรมเข้าระบบได้ง่ายขึ้นป้องกันการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมระหว่างนำส่งเข้าโรงงานกำจัดซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายในการนำกากอันตรายเข้าสู่ระบบให้ได้ 1.4 ล้านตัน ภายในปีนี้ เพิ่มจากปีที่ผ่านมาที่จัดเก็บกากอุตสาหกรรมอันตรายได้ 1.3 ล้านตัน และนำกากอุตสาหกรรมอันตรายเข้าระบบ 90% ตามแผนกำจัดกากอุตสาหกรรม 5 ปี ระยะเวลาตั้งแต่ปี 2558-2562


ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์, วันที่ 29 มีนาคม 2559

sendLINE

Comment