เอกชนลุยผุดโรงงานไฟฟ้าชีวมวล

6.0K



เอกชนลุยผุดโรงงานไฟฟ้าชีวมวล

เจ้าของธุรกิจโรงงานน้ำตาล แห่ลงทุนทำโรงไฟฟ้าชีวมวล เหตุให้ผลกำไรสูงกว่า อีกทั้งหวังลดความเสี่ยง หลังราคาน้ำตาลผันผวน

 

 

นาย อนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทจะสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลแห่งที่ 3 มูลค่าการลงทุน 600 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสรจต้นปี 59 เพื่อผลิตไฟฟ้า 9.9 เมกะวัตต์ โดยสามารถขายไฟได้ถึง 8 เมกกะวัตต์ ภายใต้รูปแบบการรับซื้อไฟฟ้าตามต้นทุนที่แท้จริง (ฟีดอินทารีฟ) และทำให้มีรายได้รวมจากธุรกิจพลังงานทดแทนปีนี้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 5% เป็น 10% ของผลการดำเนินงาน หรือ 450 ล้านบาท มีกำไรเพิ่มขึ้นจาก 20% เป็น 30% ด้วย

ปีนี้บริษัทมีแผนที่จะลงทุน 1,100 ล้านบาท โดย 600 ล้านบาท จะสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลแห่งที่ 3 ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มการก่อสร้างแล้ว จากปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล 2 แห่ง ที่ได้จำหน่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบเชิงพาณิชย์ให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) รวม 16 เมกะวัตต์ ส่วนอีก 500 ล้านบาทนั้น จะใช้ขยายกำลังการผลิตน้ำตาล จากวันละ 17,000 ตันอ้อย เป็น 22,000 ตันอ้อย รองรับฤดูการผลิตปี 58-59 ที่คาดว่าปริมาณอ้อยจะเพิ่มขึ้นจากปี 57 ที่ 1.95 ล้านตัน เป็น 2.5-3 ล้านตัน ซึ่งผลิตน้ำตาลทรายได้ 230,000 ตัน

ด้านนายณัฎฐปัญญ์ ศิริวิริยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายธุรกิจชีวพลังงานและผลิตภัณฑ์ บริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้บริษัทจะมีกำไรสุทธิสูงกว่าปีก่อนที่ทำได้ 1,365 ล้านบาท โดยช่วงครึ่งปีหลัง จะเริ่มรับรู้รายได้ โรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวลใหม่ 2 โรง ขนาด 100 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นจังหวัดอุตรดิตถ์ กำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ จะเริ่มผลิตไฟฟ้าได้ในเดือน มิ.ย. และจังหวัดนครสวรรค์ กำลังการผลิต 50เมกะวัตต์ จะเริ่มผลิตไฟฟ้าได้ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้

ขณะ เดียวกัน บริษัทมีแผนจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจชีวมวลพลังงานให้ไม่ต่ำกว่า 40% ของรายได้รวม ภายใน 3 ปีนี้ จากปัจจุบันที่มีรายได้จากการขายน้ำตาลสูงถึง 60% เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงรายได้จากธุรกิจจำหน่ายน้ำตาล ซึ่งราคาขายค่อนข้างผันผวน อีกทั้งธุรกิจการจำหน่ายไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวลมีอัตราการทำกำไรสูงกว่า ธุรกิจอื่น


ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก http://www.dailynews.co.th/economic/323851

 

sendLINE

Comment