อุตสาหกรรมจี้รัฐแก้พรก.ประมงหวังหลุดใบเหลืองไอยูยู

นายศักดา พันธ์กล้า รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยหลังการหารือกับผู้แทนกรมประมงในการแก้ไขปัญหาการปิดโรงงานที่ทำผิดกฎระเบียบว่าด้วยการทำประมงที่ผิดกฎหมายไม่รายงาน และไร้การควบคุม (ไอยูยู) ที่ใช้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายว่า ต้องการเสนอให้รัฐบาลแก้ พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การประมง พ.ศ. 2558 ให้อำนาจกรมประมงตรวจสอบโรงงานที่ประกอบกิจการสัตว์น้ำผิดกฎหมายใช้แรงงานต่างด้าว สั่งปิดโรงงานได้ทันที โดยไม่ต้องการผ่านพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรงงาน พ.ศ. 2535 เนื่องจาก พ.ร.บ.โรงงานฯ สามารถดำเนินการโรงงานที่ทำผิดเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเรื่องแรงงาน สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้คือ หลังจากกรมประมงตรวจสอบพบโรงงานที่ประกอบกิจการสัตว์น้ำ ทำผิดกฎหมายใช้แรงงานที่เกิน 5 คน ต้องส่งรายชื่อโรงงานมาให้กระทรวงอุตสาหกรรมสั่งปิด เพราะตามกฎหมายของกรมประมง สามารถสั่งปิดโรงงานสัตว์น้ำที่ทำผิดกฎหมายในกรณีใช้แรงงานไม่เกิน 5 คน แต่กรมโรงงานฯ ไม่สามารถทำได้ทันที เพราะการปิดโรงงานตาม พ.ร.บ.โรงงานฯ ดูเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ไม่ใช่ดูเรื่องการทำผิดเกี่ยวกับแรงงาน จึงไม่สามารถปิดได้ทันที จึงอยากให้แก้อำนาจกรมประมงสั่งปิดโรงงานได้ทันที ก็จะทำให้การแก้ปัญหาไอยูยูคล่องตัวและช่วยให้ไทยหลุดจากใบเหลืองของไอยูยูได้รวดเร็ว

            อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้ต้องการให้กรมประมงแก้ไขกฎหมาย ให้ครอบคลุมทุกประเภทโรงงานที่เกี่ยวข้องกับการประมงด้วย เนื่องจากปัจจุบันนี้ คำจำกัดความของ พ.ร.ก.ประมงฯ ครอบคลุมเพียงโรงงานประมงเพียงอย่างเดียวมีประมาณ 717 โรง ยังไม่รวมไปถึงโรงงานประเภท 13 ซึ่งเป็นโรงงานเครื่องปรุงรส ที่รวมไปถึงน้ำปลา และประเภท 92 เป็นโรงงานห้องเย็น ที่มีบางส่วนเป็นโรงงานแปรรูปสัตว์น้ำ ซึ่งมีกว่า 1,000 โรงงาน สำหรับ โรงงานเป้าหมายที่มีความเสี่ยงทำผิดกฎหมายกรมประมง จะกระจายใน 23 จังหวัด เช่น กรุงเทพฯ นครปฐม ปทุมธานี ราชบุรี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ชุมพร เพชรบุรี ระยอง สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ตราด นครศรีธรรมราช ปัตตานี สงขลา สุราษฎร์ธานี เป็นต้น

ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559