โหรวารินทร์ทำนาย ปี 59 บิ๊กตู่ผ่านฉลุย
โหรวารินทร์ทำนาย ปี 59 บิ๊กตู่ผ่านฉลุย
จะฝ่าอุปสรรคบรรลุผลสำเร็จ นายกฯลงใต้ต้อนรับชื่นมื่น ลงพื้นที่ติดตามผลงานรัฐบาลภาคใต้ครั้งแรกทำ “บิ๊กตู่” แอบเขินยิ้มกรุ้มกริ่ม ชาวบ้านอวยพรให้เป็นนายกฯต่อไปอีก 10 ปี ย้ำกระบวนการยุติธรรมบ้านเรายังมีปัญหาต้องรื้อขนานใหญ่ยันไม่เคยคิดยกเลิกนโยบายรัฐสวัสดิการ จวกเละพวกบิดเบือนกล่าวหารัฐจะยุบทิ้งบัตรทอง 30 บาท เผย “ไก่อู” มีบทบาทสำคัญ เป็นกรรมการห้ามมวย โหร คมช.ทำนายดวงนายกฯแคล้วคลาดปัญหา ขับเรือแป๊ะพาชาติผ่านมรสุมปี 59 น้ำกระฉอกเล็กน้อย กรธ.ปรับรายละเอียดเกณฑ์อายุเลือกตั้งเพิ่มสิทธิ์ เจเนอเรชั่นใหม่กาบัตร พท.ชง 5 สร้าง 5 หยุดหลุดวิกฤติ วอนทุกฝ่ายยุติวาทกรรมขยายความเกลียดชัง ปชป.ผสมโรงรัฐบาลรุมด่า พท. งงหมดแล้วไม่รู้ใครไร้ยางอาย แต่สะกิดรัฐอย่าเคลิ้มโพลเชลียร์ หลังแถลงผลงานรัฐบาลครบรอบ 1 ปี เสร็จสิ้นลงไปแบบดุเด็ดเผ็ดร้อนจากวาทกรรมระดับฮาร์ดคอร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เดินทางลงพื้นที่ภาคใต้เพื่อติดตามผลงานรัฐบาลอย่างเป็นทางการครั้งแรก และต้องออกอาการเขินทันทีเมื่อชาวบ้านอวยพรให้เป็นนายกฯไปอีก 10 ปี ขณะที่โหร คมช.ออกมาทำนายทายทักดวง พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะนายกฯไม่มีอะไรน่ากังวลในปี 2559 จะผ่านพ้นอุปสรรคตลอดรอดฝั่งอย่างแน่นอน “บิ๊กตู่” ควง รมต.ลงใต้ติดตามงาน เมื่อเวลา 07.00 น.ที่ฝูงเครื่องบิน กองการบิน ศูนย์การเคลื่อนย้ายกองทัพบก เขตดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม เดินทางไปยัง จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.สงขลา เพื่อติดตามการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์กล่าวก่อนเดินทางว่า วันนี้เป็นการตรวจเยี่ยมเพื่อติดตามผลการทำงาน หลังจากรัฐบาลได้ออกนโยบายและสั่งการในหลายๆเรื่อง และจะติดตามการใช้จ่ายงบประมาณดูแลเกษตรกร หลากหลายอาชีพ โดยภาคใต้เน้นการช่วยเหลือชาวสวนยางตามที่ได้อนุมัติงบประมาณไปแล้ว รวมถึงการเพิ่มศักยภาพรายได้ เช่น การปลูกพืชกล้วยหอมทองแซมสวนยาง ที่ภาคใต้โชคดีไม่มีปัญหาเรื่องน้ำ หรือการเลี้ยงสัตว์ ขณะนี้เป็นระยะแรกที่รัฐบาลสร้างความเข้มแข็ง ไม่ใช่ว่าจะไปทำให้ราคายางสูงขึ้นโดยไม่มีเหตุผล ไปดูโครงการนิคมอุตสาหกรรมยางที่กำลังจะเกิดขึ้นปี 59 โดยใช้ในการแปรรูปยางพาราที่นำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงตรวจเยี่ยมด่านสะเดา จ.สงขลา ที่เชื่อมชายแดนไทยกับมาเลเซีย วอน ปชช.ใช้จ่ายอย่ารอโปรโมชั่น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซื้อสินค้านำใบเสร็จลดหย่อนภาษีเงินได้ 15,000 บาท ระหว่างวันที่ 25-31 ธ.ค.58 โดยได้รับความสนใจจากประชาชนมากว่า นี่คือสิ่งที่รัฐบาลทำให้จริงๆ รัฐบาลต้องแบกรับภาระภาษีที่ได้ลดลง ถึงแม้จะมีผลกระทบบ้าง แต่สิ่งที่ต้องการ คือให้ประชาชนได้จับจ่ายใช้สอย ได้ของใช้ราคาถูก มีการหมุนเวียนการใช้จ่ายเงินในพื้นที่ ประเด็นสำคัญทำให้เกิดวงจรการผลิต ไม่ใช่มองอย่างเดียวว่าซื้อของถูก ถ้าเดิมของราคาแพง มันก็ซื้อไม่ได้ มันก็ทำให้โรงงานรายได้ลดลง การลงทุนก็ไม่เกิด ต้องดูอย่างนี้ อย่าไปดูแค่กระพี้ ดูแค่เพิ่ม ลด หรือใครได้อย่างเดียว หรือได้มากแล้วดี ต้องดูว่าทำให้อย่างอื่นเสียหายไหม คิดให้มันครบถ้วนด้วย ใครมีเงินก็ไปใช้จ่าย ไม่ใช่รอลดราคาแล้วซื้อ ช่วยประเทศบ้าง ใครไม่มีรัฐบาลก็หาทางช่วยอยู่ ใครมีแล้วก็ไม่ใช่รอว่า เมื่อ ไหร่จะลดราคา ไม่อย่างนั้นประเทศชาติก็ไปไม่ได้ ใครจะเนรมิตอะไรให้ได้ ถ้าทุกคนไม่ช่วยกัน เวลา 08.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร กองบิน 7 อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี จากนั้น เดินทางไปยังบ้านนายวิสูตร คันทรักษา เกษตรกรชาวสวนยางพารา ต.ท่าเรือ อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อดูผลสัมฤทธิ์โครงการสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรชาวสวนยาง ในการปลูกกล้วยหอมทองแซมในสวนยางพารา ซึ่งเป็นมาตรการเสริมแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำของรัฐบาล โดยมีนายวงศ์ศิริ พรหมชนะ ผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานี ข้าราชการระดับสูง ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น เกษตรกรชาวสวนยาง เกษตรกรปลูกกล้วยหอมทอง และประชาชน มาคอยให้การต้อนรับ ทั้งนี้นายกฯได้สอบถามนายวิสูตรถึงกระบวนการปลูกกล้วยหอมทองแซมสวนยาง พร้อมแนะนำให้หาวิธีการแปรรูปหลายๆอย่าง และขยายตลาดรองรับ ขณะที่นายวิสูตรกล่าวว่า “บางคนก็ว่าผมปลูกกล้วยหอมทองแซมสวนยางแบบนี้ เหมือนคนบ้า” ขณะที่นายกฯกล่าวว่า “ทำดีแล้ว คนที่ว่าอย่างนั้นต่างหากคือคนบ้า” พร้อมแนะนำว่าถ้ามีปัญหาอะไรให้ปรึกษาสหกรณ์จังหวัด กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือถ้าเก่งอยู่แล้ว ว่างหรือเปล่าละ ไปสอนกระทรวงเกษตรฯเขาหน่อยสิ เขินถูกอวยพรเป็นนายกฯต่อ 10 ปี จากนั้น นายกฯได้พบปะกับประชาชนที่มาให้การต้อนรับ ซึ่งประชาชนอวยพรขอให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯไปอีก 10 ปี ขณะที่นายกฯ ยิ้มแล้วกล่าวตอนหนึ่งว่า “หนังสือพิมพ์ลงแล้วไม่ใช่หรือว่า ใครเป็นนายกฯคนต่อไป หมอดูอีทีก็ทำนายแล้วนี่ว่าใครเป็นนายกฯคนต่อไป ผมไม่ใช่นักการเมือง เข้ามาช่วยลดความขัดแย้ง ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ก็ขอให้ช่วยกันสร้างความสงบให้กับประเทศชาติ ไม่ใช่ว่าใครเขามาหลอก อะไร ให้เงินหรือให้อะไรก็ไปกับเขาหมด” โดยช่วงท้าย นายกฯให้กำลังใจเกษตรกรว่า เหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน ขอให้รักษาไว้ และขยายไปยังท้องถิ่นอื่น ๆ ด้วย ย้ำกระบวนการยุติธรรมต้องรื้อใหญ่ ต่อมาเวลา 09.30 น. นายกฯและคณะเดินทางไปยังโรงเรียนบ้านหนองเรียน อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเยี่ยมชมนิทรรศการโครงการประชารัฐ โครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง พร้อมกับมอบเงินช่วยเหลือโครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางจำนวน 50 ราย และมอบเงินช่วยเหลือโครงการฟื้นฟูกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองจำนวน 50 ราย จากนั้นนายกฯได้พบปะกับประชาชนมาต้อนรับกว่า 2 พันคน พร้อมกล่าวว่า ดีใจ เป็นครั้งแรกลงพื้นที่ภาคใต้ ถ้าตนเป็นนักการเมืองจะรู้สึกดีใจมากๆ เพราะคงได้คะแนนเสียงมาก แต่ตนมาไม่ได้หวังผลตอบแทน มาทำให้ประเทศก้าวไปได้อย่างมั่นคง ทุกคนเคารพกฎหมาย เร่งบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน สร้างความสามัคคี ลดความขัดแย้งทางการเมือง และจากปัญหาที่มีมาก ซับซ้อนและยาวนาน ทำให้มีความเสี่ยงสูง รัฐบาลพยายามจะแกะจะรื้อ แต่ยังไม่มีอะไรเสร็จสักอย่าง เพราะมีทั้งปัญหาหลัก ปัญหารอง ปัจจัยภายใน ภายนอกประเทศ เรื่องของกระบวนการยุติธรรมต้องแก้ทั้งหมด โดยบังคับใช้กฎหมายอย่างเดียวไม่ได้ ต้องหาความสมดุลทำ 2 ฝ่ายไม่ขัดแย้ง เมื่อทุกคน รู้หน้าที่ของตัวเอง เราก็จะไม่ต้องใช้กฎหมายอะไรมากนัก ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความรักความสามัคคี มีระบบเครือญาติเชื่อมโยงก็จะแก้ไม่ค่อยได้ ดังนั้น เราต้องใช้คนที่มีประสิทธิภาพได้เข้าไปทำงาน ไม่ว่าจะตำแหน่งใด มิฉะนั้นจะแก้ปัญหาไม่ได้ ยันไม่เคยคิดเลิกบัตรทอง 30 บาท พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยมีคน 70 ล้านคน อยู่ในระบบภาษี 10 ล้านคน โดยเสียภาษีประมาณ 4 ล้านคน ส่วนอีก 6 ล้านคน ลดหย่อนตรงนั้นตรงนี้ ดังนั้น 4 ล้านคนถือเป็นหลักของ ประเทศ เพื่อนำมาขับเคลื่อนประเทศ ในส่วนของ ข้าราชการเขาก็เสียภาษี อย่าไปบอกว่าเขาไม่ได้เสียภาษี ข้าราชการโกงภาษีไม่ได้ อีกส่วนหนึ่งของการเสียภาษีคือภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ vat โดยบวกไปกับราคาสินค้าซึ่งเก็บ 7 เปอร์เซ็นต์มาหลายปี แล้ว ยังไม่สามารถขึ้นได้ เพราะบ้านเมืองเรายังไม่เข้มแข็ง ทุกวันนี้ ประเทศไทยงบประมาณขาดดุลทุกปี เพราะรายจ่ายมากกว่ารายได้ จึงเป็นปัญหาที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบ “แต่ไปยกเลิกเรื่องรัฐสวัสดิการไม่ได้ ไม่ว่า จะเป็นรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี การศึกษาฟรี การรักษาพยาบาลฟรี ดังนั้น อย่าไปฟังใครบิดเบือน ผมไม่เคยคิดที่จะเลิก มีแต่คิดว่าจะหาเงินมาจากไหน แล้วทำให้ดีขึ้น อย่าออกมาเดินขบวนต่อต้านเรื่อง 30 บาทกับผมอีก ได้ยินกันทุกคนแล้วนะ ขอถือโอกาสชี้แจงเลย บัตรประชาชนก็คือประชาชน แต่ยังต้อง มีบัตรให้คนที่ไม่ได้เสียภาษี เพื่อเป็นข้อมูลเก็บไว้ เฉยๆ เพื่อให้เขาเข้าถึงรัฐสวัสดิการ และอะไรอีกหลายอย่าง โดยไม่มีแบ่งชนชั้น อย่ากังวล ไม่ใช่เอาไปประจานอย่างที่เขาว่ากัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว อย่ามอง รธน.แค่การเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนมีเวลาเหลืออีกแค่ 1 ปี 6 เดือน ที่จะทำให้ทุกคนกำหนดชะตาชีวิตตัวเองในอนาคตได้ เมื่อพวกท่านเป็นคนเลือกตั้ง เป็นคนลงประชามติ ต้องดูสาระข้างในด้วยว่ามันคืออะไร วันนี้หลายคนยังไม่ได้ดู ดูแต่เพียงว่าต้องเลือกตั้ง แต่ไม่ได้ดูว่าทำอย่างไรเลือกตั้งแล้วได้คนดีปกครองบ้านเมือง มีธรรมาภิบาล กำหนดชัดเจนว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างอีก 20 ปีข้างหน้า วันนี้คือการเริ่มต้นช่วงที่หนึ่งของการปฏิรูป จากนั้นส่งแผนปฏิรูปไปให้รัฐบาลต่อไป แล้วประชาชนเลือกมาให้ดีก็แล้วกัน แต่ถ้าทุกคนทุกพรรคยังพูดแบบเดิมๆอยู่คงไม่มีทางทำได้ ถ้าพวกเขามาต่อว่าอะไรถึงตน ขอให้ถามกลับเขาไปได้เลยว่า แล้วเขามีแนวคิดอย่างไรในการพัฒนาบ้านเมือง ทำการปฏิรูปประเทศ แล้วปัญหาจะถูกลากโยงมาอีกเท่าไหร่ แล้วในวันหน้าประเทศเราจะล้มละลายหรือไม่ หนุนเลี้ยงโคขุนศรีวิชัยแนะต่อยอด ต่อมาที่อาคารกองบังคับการกองบิน 7 จ.สุราษฎร์ธานี นายกฯพร้อมคณะ ประชุมร่วมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ทั้งส่วนกลางและกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย โดยภายหลังการประชุม นายกฯแถลงว่า ดีใจที่ชาวสุราษฎร์ธานีปลูกพืชเสริมแซมสวนยางพาราไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนการท่องเที่ยวเสริมการหาลูกค้าเพิ่มมากขึ้น โดยชุมชนจะต้องได้ประโยชน์จากการส่งเสริมการท่องเที่ยวนั้นด้วย พร้อมเร่งรัดสร้างถนนจาก 2 เลนเป็น 4 เลน จากนั้นในระยะยาวดูเรื่องรถไฟ ส่งเสริมเลี้ยงโคขุนศรีวิชัย ที่ในพื้นที่ต้องการ ซึ่งตนอนุมัติไปแล้ว และเน้นการแปรรูปให้มากขึ้น เช่น ทำเนื้อแผ่น เนื้อรมควัน หรือไส้กรอก และขยายตลาดขายที่อื่นด้วย อีกทั้งจะต้องหาคนมาร่วมลงทุนในพื้นที่ให้เพิ่ม ต้องทำให้ประชาชนมีอาชีพเสริม ไม่ว่าจะด้านเกษตรกรรม หรือเลี้ยงสัตว์ เช่น เลี้ยงโค หรือแพะ ขออยู่อีกนิดเพื่อวางรากฐาน ต่อมาเมื่อเวลา 14.40 น. นายกฯและคณะ เดินทางถึงยังอาคารศูนย์บริการการลงทุนโครงการนิคมอุตสาหกรรมเมืองยาง ในนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปการลงทุนอุตสาหกรรมสวนยาง จากนั้น ทำพิธีเปิดป้ายอาคารศูนย์บริการฯและขึ้นเวทีกล่าวกับประชาชน 2 พันคน ที่มาต้อนรับว่า ทุกครั้งที่มาเยี่ยมประชาชน มีความสุขที่ได้เห็นรอยยิ้ม อยากเห็นความคืบหน้าของโครงการต่างๆ ใจร้อนต้องการหน้า ตอนนี้เพลงแรกก็แต่งขอเวลาอีกไม่นาน ก็มีคนถามว่าเมื่อไรจะไปเสียที ซึ่งได้แต่งเพลงที่ 2 ออกมาขอให้ร่วมมือกันก่อน เพราะถึงอย่างไรก็ไปอยู่ดี อยู่ไม่ได้อยู่แล้ว ไม่ได้อยู่เพื่อสืบทอดอำนาจ แต่ก่อนที่จะไป ก็ต้องทิ้งพื้นฐานในการเริ่มต้นเอาไว้ให้ทุกคนก่อนอย่างยางพารา จากการประเมินจะมี 70 อุตสาหกรรมเกิดขึ้น ซึ่งมียางใช้ในประเทศ 2 แสนตันต่อปี ตอนนี้เก็บไว้ในคลัง เอาออกมาใช้ไม่ได้ เพราะราคาตลาดจะตก รัฐบาลต้องระวัง ให้ท้าย “ไก่อู” ขึ้นเวทีปล่อยหมัดสวน นายกฯกล่าวว่า คสช.มาเพื่อใช้กฎหมายให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น ไม่ได้มาเพื่อรังแกใคร เพราะฉะนั้น อย่าให้ใครมาบิดเบือนอีกแล้วกัน ขณะนี้ได้จัดระเบียบ การปฏิรูประยะที่ 2 ก่อนเข้าสู่ระยะที่ 3 ที่เลือกตั้งได้ ปี 60 ที่รัฐบาลก่อนไม่เคยทำ จึงทำให้พี่น้องออกมาเรียกร้องอยู่อย่างนี้ ทั้งที่ค่าใช้จ่ายประเทศสูงขึ้นๆ ยิ่งร้องก็ยิ่งต้องใช้งบประมาณ จึงต้องสร้างรายได้ให้มากขึ้น เพื่อให้ลูกหลานได้อยู่กันต่อไป และต้องดูแลประชาชนทุกภาค โดยการเป็นประชารัฐ ไม่ใช่เรื่องยาก และในอนาคตภาคใต้ต้องมีรถไฟความ เร็วกลาง ไม่ใช่ความเร็วช้าในปัจจุบัน อีกหน่อยคนใต้แหลงใต้กันไม่ทันแล้วเวลาที่รถไฟสวนทางกัน และอยากให้ทุกคนอย่าเพิ่งเบื่อตนพูด ถ้าไม่ฟัง ก็ขอให้ฟังรองนายกฯ ฟังรัฐมนตรีได้ หรือฟังไก่อู (พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี) ก็ได้ เพราะต้องมีไอ้นั่นไว้เป็นกรรมการห้ามมวย ไม่พูดก็ไม่ได้ โหร คมช.ชี้ปี 59 “บิ๊กตู่” ผ่านฉลุย เมื่อเวลา 09.00 น.ที่วิหารหลวงปู่ หมู่บ้านสุขิโต อ.เมืองเชียงใหม่ อาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ หรือโหร คมช. เปิดบ้านให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ถึงดวง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ในปี 2559 ว่า การทำงานที่ คสช. วางไว้ หากไม่บรรลุวัตถุประสงค์อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนบุคคล มีเรื่องของการเปลี่ยนแปลงเพื่อความเหมาะสม ยืนยันว่าจะมีการปรับตำแหน่งเพื่อเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอนในปี 2559 ต่อข้อถามว่าในปี 59 หลายคนมองว่าจะเกิดปัญหาเศรษฐกิจ ภัยแล้ง การเมือง การคอร์รัปชัน อาจารย์วารินทร์กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์มาทำหน้าที่ให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุขร่มเย็น เหตุการณ์ดังกล่าวมาข้างต้นไม่น่ามีปัญหา แต่อุปสรรคมีแน่นอน โดยเฉพาะเรื่องของผู้คนที่ก่อกรรมต่างๆให้กับชาติบ้านเมือง ผู้ใดทำกรรมไว้ผู้นั้นย่อมรับกรรมนั้นไป ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ท่านมาตามหน้าที่ แม้จะเกิดอะไรขึ้น ท่านก็สามารถทำหน้าที่ให้บรรลุผลสำเร็จอย่างแน่นอน “บิ๊กป้อม” บอกไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงคำทำนายของอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหร คมช.ว่า ยังไม่ทราบ และยังไม่เคยคุยกับท่าน ส่วนจะเชื่อเรื่องพวกนี้หรือไม่นั้น คิดว่าถ้าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ ขอให้เฉยๆไว้ มีหน้าที่ฟังอย่างเดียว ตนไม่มีหน้าที่ต้องตอบ จะตอบเพียงเรื่องทำงานเท่านั้น เมื่อถามว่าปี 2559 มองทิศทางการเมืองไทยเป็นอย่างไร พล.อ.ประวิตรตอบว่า ถ้าเป็นเรื่องการเมืองตนขอไม่ตอบ เพราะไม่ใช่นักการเมือง แต่ทุกอย่างเป็นไปตามกรอบโรดแม็ปที่ระบุไว้ชัดเจน อย่าพยายามมาถามให้ตนไขว้เขว ผลสอบราชภักดิ์อาจไม่มีคนทุจริต พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงความพร้อมในการแถลงผลความคืบหน้าการตรวจสอบโครงการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ ที่มี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบ และจะมีการแถลงในวันที่ 30 ธ.ค. เวลา 13.30 น. ว่า คิดว่ามีความพร้อม พล.อ.ชัยชาญจะเป็นคนแถลงเอง แต่ผลการตรวจสอบไม่รู้จะเป็นที่พอใจหรือไม่ เพราะเป็นแค่การตรวจสอบข้อเท็จจริง เราเอาแต่เรื่องจริงออกมาพูด ส่วนจะถูกหรือผิดก็ต้องว่าไปตามขั้นตอน เมื่อถามว่า ผลการตรวจสอบจะมีคนผิดและมีการทุจริตหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่รู้ เพราะไม่ใช่ผู้พิพากษาที่จะไปตัดสินว่าใครถูกผิด ต้องเป็นหน้าที่ทางกฎหมายดำเนินการ แต่ก็จะมีการชี้แจงให้ฟังอย่างละเอียดว่ามีการใช้เงินทั้งหมดเท่าไหร่ มีกี่โครงการ ทำอะไรไปบ้าง ขอย้ำว่าตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่ได้ตั้งมาเพื่อหาคนทุจริต เพราะการตรวจสอบหลักฐานหาคนทุจริต เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ด้านความคืบหน้าการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เมื่อเวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) โดย นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังการประชุมนายนรชิต สิงหเสนี โฆษก กรธ. แถลงว่า ที่ประชุมได้พิจารณาผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการพิจารณา แนวทางการปฏิรูปการศึกษาและการบังคับใช้กฎหมายโดยกำหนดให้มีแผนการศึกษาของชาติและกฎหมายว่าด้วยแผนการศึกษาของชาติโดยเร็ว รวมถึงกำหนดให้มีคณะกรรมการศึกษาทำหน้าที่กำหนดนโยบายและกำกับดูแลตามแผนดังกล่าวพร้อมควบคุมการใช้จ่ายงบประมาณด้านการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามแผนการศึกษาของชาติที่กำหนด เพื่อให้ได้คนดี มีวินัย และมีการศึกษาได้ตามความถนัด ซึ่ง กรธ.จะไปพิจารณาอีกครั้งว่าจะนำไปกำหนดไว้ในหมวดหน้าที่ของรัฐ แนวนโยบายแห่งรัฐ หรือบทเฉพาะกาล ปรับเกณฑ์อายุ 18 บริบูรณ์มีสิทธิ ลต. นายนรชิตกล่าวว่า ที่ประชุมยังได้พิจารณาผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการศึกษาโครงสร้างฝ่ายนิติบัญญัติเกี่ยวกับการนับอายุผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จากเดิมรัฐธรรมนูญกำหนดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ในวันที่ 1 ม.ค.ของปีที่มีการเลือกตั้ง แต่เพื่อให้เกิดความยุติธรรมและให้โอกาสเยาวชนรุ่นใหม่ได้มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งเป็นครั้งแรก กรธ.จึงเห็นพ้องว่าอาจกำหนดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ก่อนวันเลือกตั้งซึ่งจะส่งผลให้มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม จากที่เคยทำให้คนเหล่านี้เสียสิทธิไปจำนวนกว่าแสนคน โดยหลังจากนี้คณะอนุกรรมการฯจะไปศึกษาในรายละเอียดเพิ่มเติมตามขั้นตอนต่อไป สนช.ยื่นความเห็นร่าง รธน.ส่ง กรธ. เมื่อเวลา 14.00 น. นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสามัญพิจารณาศึกษาเสนอแนะและรวบรวมความคิดเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำร่าง รธน.พร้อมสมาชิกได้ยื่นรายงานความเห็นเกี่ยวกับข้อเสนอแนะร่าง รธน.ต่อนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. โดยนายสุรชัยกล่าวว่า รายงานที่เสนอแบ่งเป็น 4 ประเด็น คือ 1.ที่มาของ ส.ส.และรูปแบบการเลือกตั้ง 2.ที่มาของ ส.ว. 3.ที่มานายกรัฐมนตรี 4.ความจำเป็นของการมีคณะกรรมการปรองดองแห่งชาติหรือไม่ ซึ่งความเห็นที่ สนช.ส่งไปนั้นได้นำความเห็นบนพื้นฐานของบทเรียนทางการเมืองที่ผ่านมาไม่ใช่พิจารณาเฉพาะรัฐธรรมนูญปี 2550 เพียงอย่างเดียวแต่ได้นำบทเรียนทางการเมืองในอดีตมาต่อยอด เพื่อให้เกิดการพัฒนาทางการเมืองก่อให้เกิดการปฏิรูปการเมืองที่ดีที่สุด ขณะที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. กล่าวว่า ความคิดเห็นที่ได้รับจาก สนช. ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาร่าง รธน.เป็นอย่างมาก “นพดล” ชง 5 สร้าง 5 หยุดหลุดวิกฤติ นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ในโอกาสขึ้นปีใหม่ที่ทุกคนอยากเห็นประเทศเดินไปข้างหน้า เพื่อร่วมกันนำพาประเทศก้าวข้ามวิกฤติให้ได้ คนไทยเผชิญกับความท้าทายหลายรูปแบบ จึงเสนอแนวคิด 5 สร้าง 5 หยุด เพื่อพาประเทศพ้นวิกฤติ ดังนี้ 1.สร้างรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย เคารพหลักประชาธิปไตย หลักนิติรัฐ นิติธรรม และเคารพการตัดสินใจของประชาชน 2.สร้างสังคมที่อุดมนิติธรรมอย่างแท้จริง ยึดมั่นในกฎหมายไม่ใช้กฎหมู่ การบังคับใช้กฎหมายที่เท่าเทียมเป็นธรรมกับทุกฝ่าย 3.สร้างสังคมอุดมเสรีภาพและภราดรภาพ เคารพสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและแสดงออกทางการเมือง แม้ความคิดการเมืองต่างกันแต่อยู่ร่วมกันได้ 4.สร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืนมั่นคง กระจายความเจริญสู่ชนบท ดูแลคนฐานรากให้อยู่ได้ 5.สร้างสังคมที่อุดมด้วยปัญญา ทำให้คนมีการศึกษา คิดด้วยเหตุผล สร้างประชาชนให้มีความรู้ เพื่อพัฒนาตนเองและช่วยพัฒนาประเทศ พอกันทีวาทกรรมจุดไฟขัดแย้ง นายนพดลกล่าวว่า นอกจากนี้ต้องหยุดการกระทำที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ เช่น 1.หยุด hate speech วาทกรรมสร้างความเกลียดชัง หยุดใช้วาจาก้าวร้าว เหยียดหยาม ใส่ร้ายป้ายสีกัน 2.หยุดการบังคับใช้กฎหมายสองมาตรฐาน การเลือกปฏิบัติในสังคมทุกรูปแบบ 3.หยุดการเล่นพรรคเล่นพวก ในทำนองพวกเราทำถูกหมด พวกเขาทำผิดหมด ทีใครทีมัน 4.หยุดการทุจริตคอร์รัปชันทั้งในภาครัฐและภาคเอกชนอย่างเป็นรูปธรรม 5.หยุดการทำลายทรัพยากรธรรมชาติทุกรูปแบบ “ป๋าเปรม” เปิดบ้านสี่เสาฯ 30 ธ.ค. พล.ท.พิศณุ พุทธวงศ์ หัวหน้าสำนักงานประธานองคมนตรี กล่าวว่า กำหนดการเข้าอวยพรปีใหม่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ วันที่ 30 ธ.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.จะนำคณะรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีที่เป็นทหาร ปลัดกระทรวงกลาโหม ผบ.ทหารสูงสุด ผบ.เหล่าทัพ และ ผบ.ตร.เข้าอวยพรรวมเป็นคณะเดียวกันในเวลา 09.00 น.จากนั้นจะเปิดให้ตัวแทนสมาคมและองค์กรต่างๆเข้าอวยพรต่อ อย่างไรก็ตาม ขอความกรุณาบุคคล ประชาชนทั่วไปที่จะเข้าอวยพรส่วนตัวขอให้ส่งเป็นการ์ดอวยพรมาแทน เนื่องจาก พล.อ.เปรมอายุมากแล้ว คงยืนรับอวยพรเป็นเวลานานไม่ไหว ขณะเดียวกัน ช่วงเช้าเวลา 06.30 น.วันที่ 30 ธ.ค. พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.สมหมาย เกาฏีระ ผบ.ทหารสูงสุด ผบ.เหล่าทัพ และคณะบุคคลจะเข้าอวยพร พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดก่อนเดินทางมาที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ ย้ำเหล่าทัพใช้หลักต่างตอบแทน ที่กระทรวงกลาโหม พล.ต.คงชีพ ตันตระวานิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมสภากลาโหมว่าจากความสัมพันธ์ทางทหารระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านอยู่ในสถานะดีมากเนื่องจากการพัฒนาสัมพันธ์และสร้างความร่วมมือในกิจกรรมระดับต่างๆอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง รมว.กลาโหม ได้กำชับให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมยึดหลักการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ลดความหวาด ระแวงระหว่างกัน เน้นผลประโยชน์ที่เท่าเทียมกันใช้หลักต่างตอบแทนในการเจรจาและนำผลการเจรจามาดำเนินการให้เป็นรูปธรรม และส่งเสริมความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศเป้าหมายที่รัฐบาลให้ความสำคัญทั้งกลุ่มประเทศ CLMV กลุ่มประเทศ ASEAN กลุ่มประเทศ APEC และประเทศหมู่เกาะต่าง ๆ เพราะประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ปัญหาความมั่นคงมีแนวโน้มสลับซับซ้อน มีความเชื่อมโยงมากขึ้น สื่อทำเนียบฯ งดตั้งฉายา รบ. “บิ๊กตู่” วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ออกแถลงการณ์งดการตั้งฉายารัฐบาล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ปี 2558 ที่ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติประจำปีและสืบเนื่องกันมากว่า 20 ปี เพื่อสะท้อนการทำงานของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในรอบปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ตลอดจน ครม. เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ด้วยวิธีพิเศษ ไม่ผ่านกระบวนการเลือกตั้งตามกลไกปกติในระบอบประชาธิปไตย ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลจึงมีมติ “งด” ตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปี 2558 เพราะเป็นหลักปฏิบัติที่ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบฯ ยึดถือสืบเนื่องกันมา ว่าจะไม่ตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปี ใน 3 กรณี คือ 1.รัฐบาลรักษาการ ภายหลังนายกฯ ประกาศยุบสภา หรือกรณีที่เกิดการเปลี่ยนแปลง จนรัฐบาลยังทำงานไม่ครบปี 2.รัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจหรือรัฐประหาร และ 3.สถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในภาวะไม่ปกติ ยกเคสในอดีตบล็อกเกมขยายผล แถลงการณ์ระบุด้วยว่า ผู้สื่อข่าวทำเนียบฯ มีความเห็นร่วมกันว่า ไม่ต้องการให้การงดตั้งฉายาครั้งนี้ ถูกนำไปใช้ขยายความขัดแย้งที่ยังดำรงอยู่ในสังคมไทย หรือถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองของกลุ่มบุคคล ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด อนึ่ง การงดตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปีของผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบฯ เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง อาทิ ในปี 2549-2550 รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ ที่มาจากการรัฐประหาร ในปี 2551 รัฐบาลนายสมัคร รัฐบาลนายสมชาย และรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ในปี 2556 รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ เนื่องจากมีการประกาศยุบสภา และล่าสุดในปีที่ผ่านมา 2557 รัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ ที่มาจากการรัฐประหาร เป็นต้น ศาลรับฟ้องอดีต รมช.คลังรัฐบาล “ปู” เวลา 13.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 902 ศาลอาญา แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ มีคำสั่งประทับรับฟ้อง คดีที่ ป.ป.ช.เป็นโจทก์ฟ้องนางเบญจา หลุยเจริญ อดีต รมช.คลัง สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ และอดีตรองอธิบดีกรมสรรพากร น.ส.จำรัส แหยมสร้อยทอง อดีต ผอ.สำนักกฎหมาย น.ส.โมรีรัตน์ บุญญาศิริ อดีต ผอ.สำนักกฎหมาย นายกริช วิปุลานุสาสน์ ผอ.สำนักกฎหมาย กรมสรรพากร และ น.ส.ปราณี เวชพฤกษ์พิทักษ์ คนใกล้ชิดเลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยานายทักษิณ ชินวัตร เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เกิดความเสียหายแก่ราชการสืบเนื่องจากกรณีไม่ให้นายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรของนายทักษิณต้องเสียภาษีอากร หรือเสียภาษีน้อยกว่าที่จะต้องเสียและได้รับประโยชน์ที่มิควร โดยชอบด้วยกฎหมายในการซื้อหุ้น บริษัท ชินคอร์ปอเรชัน จำกัด เมื่อปี 2549 โดยศาลนัดจำเลยที่ 1-5 มารายงานตัว และไต่สวนพยานครั้งแรกวันที่ 23 ก.พ.59
|

Comment
New!

สถาปนิก 68 ทบทวนทิศทาง Past Present Perfect

หากท่านอยู่ในอุตสาหกรรมน้ำมันและปิโตรเคมี ไม่ควรพลาดงานนี้ !! งาน Thailand Oil & Gas Roadshow 2024

สถาปนิก’68 ทบทวนทิศทาง Past Present Perfect

แบรนด์ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างชั้นนำกว่า 600 บริษัท ตบเท้าร่วมงานสถาปนิก’67 พร้อมโชว์นวัตกรรมสุดล้ำ
Popular

ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงาน

สินค้าส่งออกสำคัญ 10 อันดับแรกของไทย

การส่งกำลังโดยใช้สายพาน

ประเภทสกรูและน็อต อุตสาหกรรม