จับตาไทยส่อเค้าเกิด Credit Crunch

1.8K



จับตาไทยส่อเค้าเกิด ‘Credit Crunch’

 
จับตาไทยส่อเค้าเกิด ‘Credit Crunch’
 

นักเศรษฐศาสตร์ นักการเงิน เตือนสัญญาณสินเชื่อฝืด-เงินฝากท่วมระบบ ส่งสัญญาณส่อเค้าเกิด Credit Crunch เหมือนก่อนเกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ แนะจับตาและเฝ้าระวัง "ธนวรรธน์" ชี้ เงินฝากล้น-แบงก์ไม่ปล่อยกู้ เหตุความไม่มั่นใจในเศรษฐกิจ ส่วน "ศุภวุฒิ" จับตาแบงก์อุ้มลูกค้าผิดนัดชำระ หลังลามไปธุรกิจเอสเอ็มอี ย้ำหากตกชั้นเป็นเอ็นพีแอลเพิ่ม เกิดภาวะสินเชื่อตึงตัว

ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวเปิดกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ปัจจุบันจะเห็นอัตราเงินฝากในระบบสูงกว่าอัตราการปล่อยสินเชื่อ นับเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยในปีนี้ที่จะต้องจับตามอง เพราะหากสถานการณ์ไม่สามารถคลี่คลายจะเป็นสัญญาณอันตรายต่อเศรษฐกิจให้ทรุดตัวลงได้อีก เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในช่วงวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งหลังจากวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์จะเห็นสินเชื่อขยายตัวมากกว่าเงินฝาก

ทั้งนี้ ตัวเลขสินเชื่อและเงินฝากในไตรมาสที่ 2 ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะพบว่าอัตราการเติบโตสินเชื่ออยู่ที่ 5.6% หรือประมาณ 1.56 หมื่นล้านบาท ขณะที่เงินฝากเติบโต 6.4% คิดเป็น 1.68 หมื่นล้านบาท ซึ่งอัตราการเติบโตดังกล่าว สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ถดถอยลงของคนไทยและสถาบันการเงิน เนื่องจากคนก็ไม่กล้าจะลงทุนใหม่หรือจับจ่ายใช้สอย จึงนำเงินไปพักแช่ไว้ที่ธนาคาร ส่วนธนาคารเองก็ไม่มีความมั่นใจที่จะปล่อยสินเชื่อใหม่ ทำให้เงินไม่ถูกหมุนในระบบเศรษฐกิจ แต่ถูกเก็บไว้ในธนาคารแทน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ต้องจับตามอง นอกจากปัจจัยเสี่ยงด้านเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ในปีนี้

"สัญญาณเงินฝากที่อยู่ในระดับสูงกว่าสินเชื่อ สะท้อนถึงความไม่มั่นใจทั้งแบงก์และประชาชนแบงก์เองก็กลัวที่จะปล่อยสินเชื่อ ประชาชนก็กลัวที่จะใช้จ่าย แม้ว่าตอนนี้ยังจะไม่มีปัญหา แต่หากตัวเลขสะท้อนแบบนี้ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ภาพเดิมก่อนวิกฤติจะหมุนกลับมาถ้าเราย้อนกลับไปดูตัวเลขในช่วงนั้น จึงเป็นสัญญาณอันตรายที่เราต้องคอยดูด้วยนอกจากการโตของจีดีพี" เช่นเดียวกับ ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) (บมจ.) ที่กล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจไทยที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลายด้าน แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง จะเป็นเรื่องของภาคธนาคารพาณิชย์ที่ส่งสัญญาณความระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น จนอาจนำไปสู่ Credit Crunch หรือเรียกว่า ภาวะสินเชื่อตึงตัว เนื่องจากก่อนหน้านี้จะเห็นว่าธนาคารต่างๆ พยายามออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว กำลังผ่อนชำระถูกกระทบ รวมถึงยอดขายที่ลดลง อาจทำให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เร่งตัวสูงขึ้น จึงต้องออกมาตรการช่วยเหลือโดยเฉพาะกลุ่มหนี้จัดชั้นจับตาเป็นพิเศษ (SM) หรือเป็นหนี้ค้างชำระตั้งแต่ 1-3 เดือน แต่ยังไม่เป็นหนี้เอ็นพีแอล เพื่อไม่ให้ตกชั้นเป็นเอ็นพีแอล

ดังนั้น หากธนาคารสามารถควบคุมตัวเลขกลุ่มผิดนัดชำระ (SM) ได้ด้วยมาตรการต่างๆ ภายใน 3-6 เดือนข้างหน้า จะไม่เป็นไร แต่หากไม่สามารถควบคุมการตกชั้นของหนี้ได้ จะยิ่งทำให้ธนาคารเพิ่มความระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น และจะเห็นว่าจากเดิมมองว่าปัญหาหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นเดิมจะมาจากหนี้ค้างชำระมาจากกลุ่มสินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อรถยนต์ แต่ปัจจุบันเริ่มมาจากกลุ่มสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) เนื่องจากได้รับผลกระทบจากยอดขายที่ลดลง ทำให้การเติบโตลดลง ส่งผลต่อการชำระหนี้ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องติดตาม

"ตอนนี้จะเห็นว่าธนาคารพาณิชย์ระมัดระวังมากขึ้น ทำให้การปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบก็มีจำกัด จึงเป็นตั้งข้อสังเกตว่าหากสถานการณ์ลากยาว แต่ตัวหนี้จัดชั้นกลายเป็นเอ็นพีแอลขยับขึ้น แบงก์จะยิ่งไม่ปล่อย ซึ่งอาจเกิดภาวะเครดิตครัชท์ได้"

สำหรับแนวโน้มสภาพคล่องครึ่งปีหลังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่ามีโอกาสตึงตัวขึ้นได้อีกเล็กน้อยซึ่งต้องจับตาพัฒนาการของหลายปัจจัย ทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ความต้องการระดมทุนเพิ่มเติมจากภาครัฐ ความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้ายในช่วงที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) ใกล้ขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่แต่ละธนาคารคงจะบริหารจัดการเงินฝากเพื่อให้สอดคล้องกับการขยายตัวของสินเชื่อในแต่ละช่วงเวลาเพื่อรักษาระดับสภาพคล่องให้เพียงพอต่อการทำธุรกิจหลักควบคู่ไปกับการบริหารต้นทุนและประคองผลดำเนินงานท่ามกลางปัจจัยท้าทายต่อธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไทยในระยะถัดไป

ทั้งนี้ผลดำเนินงานไตรมาส 2/58 ธนาคารพาณิชย์ 11 แห่งมีกำไร 5.15 หมื่นล้านบาทลดลง 1.73% จากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 5.24 หมื่นล้านบาทหรือลดลง 910 ล้านบาท ขณะที่ 6เดือนแรกธนาคารพาณิชย์มีกำไร1.03แสนล้านบาทเพิ่มขึ้น 0.57%จากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ 1.02 แสนล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นเพียง 585 ล้านบาท

 

ข้อมูลและรูปภาพ : http://www.thanonline.com/

sendLINE

Comment