ดัน 6 มาตรการเข็น เศรษฐกิจ ทะลุ 3%

1.9K



ดัน 6 มาตรการเข็น เศรษฐกิจ ทะลุ 3%

 
สมหมาย ภาษี
 

สมหมายโวอัด 6 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อัดเงินเข้าสู่ระบบหลายแสนล้านบาท ดันจีดีพีมากกว่า 3% ที่คาดว่าจะถึง 3.2%


นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการครั้งแรก ว่า ในวันที่ 4 ส.ค. นี้ จะรายงานพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบผลการประชุมที่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับ 6 มาตรการที่จะนำมากระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลให้มีวงเงินไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหลายแสนล้านบาท ทำให้เศรษฐกิจโตได้มากกว่า 3% ที่คาดว่าจะถึง 3.2%


ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้แก่ การกระตุ้นที่เกี่ยวกับการลงทุนโครงการโคร้างสร้างพื้นฐาน ทั้งระบบราง ถนน น้ำ สนามบิน รวมทั้งงบกระตุ้นของกรมทางหลวง 40,000 ล้านบาท และกรมทางหลวงชนบทอีก 25,000 ล้านบาท และมาตรการกระตุ้นผ่านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ตามยุทธศาสตร์การลงทุนใหม่ ผ่านการลงทุนเศรษฐกิจพิเศษ และการลงทุนเศรษฐกิจเฉพาะทาง เช่น อุตสาหกรรมการยางต้องใช้พื้นที่ในการดำเนินการจำนวนมาก แต่ไม่ได้อยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ก็จะมีมาตรการสนับสนุนการลงทุนให้


ขณะเดียวกัน ยังมีมาตรการกระตุ้น ผ่านนโยบายการเงินการคลัง แบ่งเป็น 6 เรื่อง ได้แก่ การช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติโดยเฉพาะภัยแล้ง, กระตุ้นการจ้างงาน กระตุ้นเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น ซึ่งมีงบอยู่แล้วและจะมีการจัดเพิ่มเติม, การให้สินเชื่อ และค้ำประกันผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี, การกระตุ้นด้านการลดภาษี ที่ผ่านการลดภาษีนำเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบกว่า 100 รายการ ให้เหลือ 0%, การกระตุ้นให้การส่งเสริมรัฐวิสาหกิจชุมชน โดยจะให้บริษัทที่ตั้งขึ้นมาดำเนินการผลิตสินค้าเพื่อช่วยเหลือสังคมและท้องถิ่นให้มีอาชีพมีรายได้ จะเว้นการเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยกำไรห้ามปันผลให้ผู้ถือหุ้นให้ไปลงทุนต่อ แต่หากดำเนินการไปแล้วต้องการเลิกกิจการกำไรที่เหลืออยู่ต้องมาเสียภาษี และกระตุ้นผ่านการปล่อยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์


นอกจากนี้ ยังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการที่มีอยู่ในงบประมาณปี 58 เพื่อช่วยเหลือท้องถิ่นเศรษฐกิจระดับรากหญ้าที่กระจายอยู่ตามหน่วยงานต่างเป็นเงินถึง 157,000 ล้านบาท มาตรการกระตุ้นผ่านกองทุนหมุนเวียน ที่ผ่านมามีการดึงเงินทุนเหมือนส่วนเกินเข้ามาเป็นเงินคลัง 28,000 ล้านบาท โดยจะต่อยอดเงินกองทุนหมู่บ้าน ผ่านการให้กู้เงินจากธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 40,000 ล้านบาท และกองทุนต่างๆ ที่เกี่ยวกับเกษตรกรก็จะให้มีการพักชำระหนี้ ลดดอกเบี้ย และยืดเวลาการชำระหนี้ให้ยาวขึ้น และมาตรการปรับปรุงระบบสหกรณ์ออมทรัพย์และเครดิตยูเนี่ยน ให้มีการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพและโปร่งใส เพื่อดันเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งมีวงเงินอยู่จำนวนมากที่อยู่ในระบบสหกรณ์


"การทำงานของคณะกรรมการขับเคลื่อน จะสรุปข้อเท็จจริงการช่วยเหลือประชาชนระดับล่าง ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี การลงทุนใหม่ ๆ มีอะไรบ้างดำเนินการไปได้แค่ไหน และมีปัญหาอะไรที่ต้องช่วยแก้ไข มีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ คือ การต่อยอดกองทุนหมู่บ้าน การส่งเสริมการทำงานของสหกรณ์ การส่งเสริมรัฐวิสาหกิจที่เป็นเรื่องใหญ่จะออกมา ซึ่งการดำเนินการเป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการ โดยจะมีการรายงานให้นายกฯ รับทราบทุก 2 สัปดาห์"


อย่างไรก็ตาม การออกมาตรการกระตุ้นครั้งนี้ถือว่าสุดแรงแล้ว เชื่อว่าเศรษฐกิจจะโตได้มากกว่า 3% ที่กระทรวงคลังตั้งเป้าหมายไว้ ในปีงบประมาณจะมีเงินที่เหลือไม่ได้เบิกจ่ายที่จะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 350,000 ล้านบาท และงบประมาณปี 59 ซึ่งเป็นไตรมาสสุดท้ายของปี ก็จะมีเงินงบที่ค้างจากปีงบ 58 และงบลงทุนปี 59 เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจำนวนมาก

 

 

ข้อมูล : http://www.dailynews.co.th/economic/338178
รูปภาพ : http://www.ispacethailand.com/

sendLINE

Comment