คนไทยฝันรอทีมเศรษฐกิจ รู้จริง-ชัดเจน-แก้ตรงจุด..
คนไทยฝันรอทีมเศรษฐกิจ รู้จริง-ชัดเจน-แก้ตรงจุด..
รัฐบาลของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” กำลังสะบักสะบอมจากสารพัดปัญหาสารพัดเรื่องราวที่ยังแก้ไม่ตกรัฐบาลของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำลังสะบักสะบอมจากสารพัดปัญหาสารพัดเรื่องราวที่ยังแก้ไม่ตก แก้ไม่สะเด็ดน้ำทั้งปัญหาปากท้อง ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาภัยแล้ง แม้กระทั่งปัญหาการเมืองจนเกิดกระแสปรับ ครม.โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจที่อาจลุกลามบานปลายจนกลายเป็นความ “ขัดแย้ง” ในอนาคตก็เป็นไปได้ การวิพากษ์วิจารณ์การปรับ ครม. พล.อ.ประยุทธ์ในครั้งนี้ กำลังหนาหูกำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นบรรดากูรูเศรษฐกิจ นักวิชาการผู้ประกอบการน้อยใหญ่ต่างเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยแต่ตัวนายกฯ ประยุทธ์เองยังแทงกั๊กไม่สรุปผลใด ๆ ด้วยสภาพเช่นนี้จึงกลายเป็นคำถามคาใจ!ใครหลายคน...ว่าสุดท้ายแล้วทางออกของนายกฯประยุทธ์ จะเป็นเช่นใด? หากยิ่งช้ายิ่งไม่ชัดเจน รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จะมีแต่ทรุดกับทรุด เพราะอย่าลืมว่า ณ เวลานี้แม้มีปัจจัยภายนอก ปัจจัยเศรษฐกิจโลกเป็นแรงกดดันในการหารายได้เข้าประเทศได้น้อยลง แต่...ก็อย่าลืมว่าปัจจัยการเมืองในประเทศก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ทำลายความเชื่อมั่นของคนไทยลงไปทุกวันเช่นกัน!! แม้หลายคนมองว่าหากเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจแล้วน่าจะมีอะไรใหม่ ๆ มีอะไรที่ดึงดูดให้ความเชื่อมั่นของทั้งคนไทยและนักลงทุนต่างประเทศดีขึ้นหรือ...ใครหลายคนอาจมองว่าเปลี่ยนแปลงไปก็อาจไม่มีอะไรดีขึ้นเพราะสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ยังบิดเบี้ยวหากยังไม่ได้รับการปฏิรูปยังไม่ได้รับการแก้ไขต่อให้เป็นใครเข้ามาก็เท่านั้น!! เรื่องราวเหล่านี้...กำลังกลายเป็นคำถาม? ที่คนไทยทั้งประเทศต้องการคำตอบ! เพราะหากยิ่งรอช้ายิ่งมีแต่ข่าวร้ายตามมาเรื่อย ๆ โดยเฉพาะความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกถ้าเศรษฐกิจในประเทศยังไม่ได้รับการแก้ไขยังไม่ได้รับการดูแลแบบกระชากความเชื่อมั่นได้ เชื่อได้เลยว่าเมื่อถึงเวลานั้น...โอกาสที่ไทยควรจะได้อาจต้องหลุดลอยไปก็เป็นไปได้เช่นกัน ระหว่างรอลุ้น รอจังหวะ การตัดสินใจของพล.อ.ประยุทธ์ อย่างเป็นทางการ...“ทีมเศรษฐกิจเดลินิวส์” จึงขอเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดความคิดเห็นของใครหลายคนเพื่อสะท้อนให้รัฐบาลเห็นถึงความต้องการที่แท้จริง!! เริ่มจาก ที่ปรึกษาสภาหอการค้าไทย อย่าง “พรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล” ที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงการค้า การเมือง ที่มีมุมมองชัดเจน โดดเด่น หลายครั้งหลายโอกาสหลายรัฐบาลได้รับความเห็นนี้ไปดำเนินการเช่นกัน มืออาชีพไม่ใช่นักการเมือง "พรศิลป์" บอกไว้ชัดเจนว่า การปรับครม.เวลานี้ไม่ใช่ทางออกของสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะไม่คิดว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น เปลี่ยนครม.ชุดใหม่ อาจเปลี่ยนสไตล์นิดหน่อย แต่เปลี่ยนชุดใหม่ก็ไม่มีปาฏิหาริย์ เพราะโครงสร้างเศรษฐกิจในปัจจุบันไม่ดี เปลี่ยนแล้วใช่ว่าการส่งออกจะดีขึ้นทันทีทันตาเห็น ถ้าทำได้ เชื่อว่าคงทำไปแล้ว ขณะที่ครม.ชุดปัจจุบันได้เร่งแก้ปัญหาทั้งระยะสั้นและระยาว ที่ถือว่าดีอยู่แล้ว โดยตัวบุคคลที่เป็นอยู่ ก็ชัดเจน เป็นมืออาชีพ ซึ่งช่วงเวลาเช่นนี้ประเทศไม่ได้ต้องการนักการเมือง แต่ต้องการมืออาชีพ เวลานี้เหมือนรถเสียที่ต้องการคนซ่อม จึงต้องการคนที่เข้ามาทำงานไม่ใช่เข้ามาเพื่อมีวิธีคิดแบบอื่น ส่วนตัวแล้ว...ต้องการให้สังคมมองไปในระยะยาว 5 ปี 10 ปี 20 ปี มากกว่า ที่ต้องเร่งต้องวางแผนในเชิงโครงสร้าง โดยดูทีละจุดทีละส่วน ทั้งเรื่องของโครงสร้าง เรื่องของความสะดวกทางการค้า เรื่องการจัดระเบียบทางการค้า ซึ่งยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ในหลาย ๆ รัฐบาล ทั้งประมง แรงงาน รวมทั้งเกษตรระยะยาวจะเป็นอย่างไร การช่วยเอสเอ็มอี เวลานี้รัฐบาลแก้ปัญหาได้ระดับหนึ่งและกำลังไปสู่ระยะยาว ทุกวันนี้ระบบเศรษฐกิจเปลี่ยนไปมาก เป็นเชิงโครงสร้างจริง ๆ ขณะที่ภาคเอกชนเองยังไม่ตื่นพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ยังอาศัยรัฐอยู่เสมอ ยังเกาะรัฐอยู่เสมอ รัฐมีพลังอยู่ระดับหนึ่ง การจะเอื้อมมือไปแข่งขันกับโลกเราต้องช่วยเหลือตัวเองด้วย มั่นใจฝีมือ “สมคิด” หันมาที่ สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย โดย “ชลิต ลิมปนะเวช”อุปนายกฝ่ายวิชาการสมาคมการตลาดฯ ระบุว่า เวลานี้ ประเทศไทยต้องการปรับโครงสร้างการบริหารครั้งใหญ่โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจซึ่งเห็นว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เหมาะสมเป็นรองนายกฯเศรษฐกิจ เพราะมีความรู้ครบทุกด้าน ทั้งเศรษฐศาสตร์ การเงิน รวมถึงการตลาด และยังมีประสบการณ์ทำงานที่โชกโชน ทำให้เข้าใจและสามารถต่อยอดแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที ขณะที่รมว.คลัง ควรให้นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล มาดูแล เพราะเคยเป็นทั้งผู้บริหารของธนาคารเอกชน และเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. จึงมีความรู้ทั้งเศรษฐศาสตร์จุลภาคและมหภาค จี้แก้ปัญหาปากท้อง ส่วนการแก้ไขปัญหาในขณะนี้ควรเริ่มต้นจากปัญหาปากท้องเป็นอย่างแรกโดยช่วยเหลือเกษตรกรให้เงินช่วยเหลือต่าง ๆ เข้าถึงมืออย่างแท้จริงจากขณะนี้ที่เงินมักจะถูกหักทอนไปให้กับคนกลางมากกว่า และยังมองว่ากระทรวงการท่องเที่ยวฯ เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจ เพราะสามารถนำเงินต่างชาติเข้ามาสู่ประเทศ ไทย เนื่องจากภาคการส่งออกไม่สามารถช่วยเหลือประเทศได้มากพอในภาวะที่เศรษฐกิจทั่วโลกย่ำแย่เกือบทั้งหมด ต้องการคนรู้จริงแก้ถูกจุด ด้าน “บุญชัย โชควัฒนา” ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหารบริษัท สหพัฒนพิบูล มองว่า ยังไม่มีความเห็นว่าใครเหมาะสม ที่จะเข้ามาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ แต่ปัญหาเศรษฐกิจเวลานี้ มีหลายอย่างเข้ามารุมเร้า หรือเป็นเพราะมีทีมบริหารที่ไม่ดีกันแน่ จึงไม่แน่ใจว่าการเปลี่ยนทีมบริหารจะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดหรือไม่ แต่มองว่าประเทศไทยต้องการคนที่รู้จริงเพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาที่เป็นอยู่โดยสิ่งสำคัญที่ต้องแก้ไขคือระบบการทำงานก่อนเพราะที่ผ่านมาพบว่าการแก้ไขปัญหาไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เพราะแก้ไม่ตรงจุด จากการรู้ไม่จริง ดังนั้นจึงเสนอว่าทีมเศรษฐกิจใหม่จะต้องทำวิจัยและเก็บข้อมูลถึงปัญหาที่แท้จริงของประชาชนและลงมือแก้ไขเพราะเมื่อแก้ไขไม่ถูกจุดก็เป็นการเสียเงินอย่างสูญเปล่า “ตอนนี้ที่ต้องแก้ไขด่วนที่สุดคือกำลังซื้อความเดือดร้อนของชาวบ้านต้องมาก่อน แต่ที่สำคัญคืออย่าคิดไปเองต้องละเอียดอ่อนและหาข้อมูลผมมองว่าการทำวิจัยเป็นสิ่งสำคัญจริง ๆ แต่รัฐบาลไม่เคยทำเราต้องจริงจังในด้านนี้และต้องทำให้ทันท่วงที” มียุทธศาสตร์สั้น-ยาว ขณะที่ “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ระบุว่า ต้องการให้รัฐบาลปรับทีมเศรษฐกิจ 4 กระทรวง คือ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ดีขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจไทย เริ่มดำดิ่งลงลึกอย่างต่อเนื่อง โดยบุคคลที่เหมาะสมเข้ามาฟื้นฟู คือ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่เคยแสดงฝีมือในการแก้วิกฤติเศรษฐกิจในช่วงปี 40 มาแล้ว ซึ่งนายสมคิด มียุทธศาสตร์ทั้งระยะสั้น และระยะยาว ไม่ใช่แบบปัจจุบันที่เน้นยุทธศาสตร์การปรับโครงสร้างในระยะยาว จนส่งผลให้ระยะสั้นประสบปัญหา รวมทั้งอีกบุคคลที่น่าเสียดาย คือ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ อดีตผู้บริหารหลายธนาคาร มีความเชี่ยวชาญทางด้านการเงินเป็นอย่างมาก เร่งจ้างงานคนชนบท สำหรับนโยบายที่ต้องการให้ทีมเศรษฐกิจใหม่เร่งดำเนินการ คือ การเร่งกำลังซื้อของประชาชน การปลดล็อกหนี้ของผู้ประกอบการ ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการหลายราย โดยเฉพาะภาคเอสเอ็มอี มีกำลังดำเนินธุรกิจต่อ แต่ขาดเครดิต เนื่องจากปัญหาเอสเอ็มอี 1-2 ปีที่ผ่านมา ถลำลึกจนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีหลายราย ได้รับผลกระทบจนขาดเครดิต รวมทั้งต้องการให้กระทรวงพาณิชย์ จัดงานแสดงสินค้า และหาตลาดใหม่ ๆ ให้กับเอสเอ็มอี ขณะเดียวกันต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเอสเอ็มอีร่วมมือกันมากขึ้น แม้เป็นวาระแห่งชาติอยู่แล้ว แต่การทำงานร่วมมือกันยังขาดการประสานงานกันอยู่ อัดฉีดงบกระตุ้นใช้เงิน อย่าง “จันทร์นภา สายสมร” กรรมการผู้จัดการบริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด เห็นว่า แนวทางที่ช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ในเวลานี้ ภาครัฐจำเป็นต้องเร่งอนุมัติงบประมาณเร่งด่วนโดยเฉพาะเงินที่ใช้ในโครงการต่าง ๆ ให้กระจายไปสู่ประชาชนโดยเร็วเพื่อให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยและเสริมสภาพคล่องให้แก่ระบบเศรษฐกิจให้หมุนได้รวดเร็วขึ้น พร้อมลดขั้นตอนการเบิกจ่ายเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้านี้ให้ผ่านไปเสียก่อน ส่วนระยะยาวนั้นอยากให้รัฐบาลสานต่อนโยบายเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ว่าเปลี่ยนคนหรือเปลี่ยนรัฐบาลนโยบายที่วางไว้ก็หยุดชะงักไปหากจะเริ่มใหม่ก็ต้องใช้เวลาในการเดินเครื่องพอสมควรตรงนี้บางครั้งอาจทำให้เสียโอกาสบางอย่างไป สุดท้ายมาที่ “นพพรเทพสิทธา” ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย บอกว่า เวลานี้ไม่ขอออกความเห็น แต่เชื่อว่านายกฯ มีแผนในใจ ขณะที่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจเร่งด่วนเวลานี้ รัฐบาลต้องเร่งเข้าไปช่วยเกษตรกรโดยเร็ว เพราะคนกลุ่มนี้เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศกำลังจะตายอยู่แล้ว มีรายได้ไม่เพียงพอรายจ่าย ขณะเดียวกันรัฐบาลต้องทุ่มงบประมาณหรือไม่ก็ต้องกู้เงินมาทำโครงการการจ้างงานในชนบทเพื่อเพิ่มรายได้แก่ชาวบ้าน ซึ่งตรงนี้ไม่ถือว่าเป็นโครงการประชานิยม แต่เป็นการช่วยให้ชาวบ้านมีงานทำและมีรายได้ชั่วคราวในภาวะที่ทุกคนมีความเดือดร้อน ส่วนมาตรการช่วยเหลือการส่งออกนั้นไม่มีมาตรการเร่งด่วนใด ๆ ที่ทำแล้วมีผลทันที เพราะเศรษฐกิจต่างประเทศไม่ดี คาดว่าส่งออกปีนี้คงติดลบ ทั้งหมด...เป็นเพียงความคิดเห็น เป็นเพียงเสียงสะท้อน ส่วนหนึ่งเท่านั้น จากนี้ไปคงต้องมาลุ้นกันว่านายกฯ บิ๊กตู่ จะตัดสินใจเลือกใคร?
รูปภาพ : http://www.posttoday.com/analysis/economy/216189 |

Comment
New!

สถาปนิก 68 ทบทวนทิศทาง Past Present Perfect

หากท่านอยู่ในอุตสาหกรรมน้ำมันและปิโตรเคมี ไม่ควรพลาดงานนี้ !! งาน Thailand Oil & Gas Roadshow 2024

สถาปนิก’68 ทบทวนทิศทาง Past Present Perfect

แบรนด์ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างชั้นนำกว่า 600 บริษัท ตบเท้าร่วมงานสถาปนิก’67 พร้อมโชว์นวัตกรรมสุดล้ำ
Popular

ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงาน

สินค้าส่งออกสำคัญ 10 อันดับแรกของไทย

การส่งกำลังโดยใช้สายพาน

ประเภทสกรูและน็อต อุตสาหกรรม