คาเฟ่และฟาร์มสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี “True Love Café”

หากเพื่อนๆกำลังหาร้านกาแฟนั่งเล่น พร้อมกับได้เล่นกับน้องหมาน่ารักขี้เล่นแล้ว วันนี้ทางเรามีร้านมานำเสนอให้เพื่อนได้ไปชม ชิม เล่นกันให้สนุกไปเลยคะ

ก่อนไปที่ร้านเราก็โทรไปจองก่อนตามคำแนะนำของคนที่รีวิวร้านเพราะว่าเรา ไปกันวันเสาร์ คิดว่าน่าจะมีคนไปเยอะ ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ค่ะ โดยร้าน True Love Café จะเปิดเป็นรอบนะคะ ร้านเปิดทุกวันเว้นวันจันทร์ สำหรับวันอังคารถึงพฤหัสบดีเปิดวันละ 2 รอบ คือ รอบ 12.30-14.30 น. และรอบ 15.30-17.30 น. ส่วนวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์เปิดเพิ่มอีกหนึ่งรอบคือ 18.30-20.30 น.

และด้วยความที่ไม่ค่อยคุ้นเคยเส้นทางละแวกนั้นจึงโทรสอบถามกับทางร้าน พวกเราเลือกเข้าทางด้านซอยราชครู (ซอยพหลโยธิน 5) ทางร้านบอกว่าเข้าไปตามทางนี้ราว 200 เมตรก็เลี้ยวซ้าย ไปอีกราว 200 เมตรก็เลี้ยวขวาผ่านร้านอาหารสวนกุหลาบทางซ้ายมือไปอีกไม่ไกลก็จะเจอซอยอารี ย์สัมพันธ์ 2 ทางซ้ายมือ

ขับเข้าไปในซอยอีกราว 600 เมตรเกือบสุดซอยซึ่งเป็นทางตันให้สังเกตฝั่งซ้ายมือที่เป็นบ้านรั้วสีขาว บนรั้วติดประกาศว่าห้ามจอดด้วยตัวหนังสือสีแดง บ้านหลังนี้แหละค่ะคือ True Love Café ใครนำรถไปก็จอดได้ทั้งภายในบ้านหรือตามแนวริมรัั้วที่มีคำว่าห้ามจอดได้เลย

พอเข้าไปในร้านนั่งตามโต๊ะที่จองไว้ ทางร้านก็นำกฎของร้านและเมนูอาหารมาให้อ่านและเลือก โดยอาหารนั้นเขาจัดเป็นเซ็ตไว้เลย ราคาเริ่มต้นที่ 250 บาทยังไม่รวม Vat 10% เซ็ตนี้จะได้เค้ก 1 ชิ้น และเครื่องดื่ม 1 แก้ว

ส่วนเซ็ต 350 บาทบวก Vat 10% จะได้อาหารจานหลักเพิ่มมาอีก 1 อย่าง ซึ่งพวกเราก็เลือกสั่งเซ็ตนี้กัน โดยสั่งข้าวผัดใบกระเพราเบคอน กับสปาเกตตี้เบคอน

พอสั่งเสร็จทางร้านก็ให้ชิปรูปหัวสุนัขไซบีเรียนแบบเดียวกับโลโก้ของร้านให้ เราไปแลกรับเค้กค่ะ โดยพวกเราเลือกเค้กช็อกโกแลตกับเค้กชาเขียวมาชิม รสชาติใช้ได้เลยค่ะ ส่วนสปาเกตตี้นั้นติดเค็มไปนิด และข้าวผัดใบกระเพราก็เผ็ดไปหน่อย

ทางร้านให้เวลาลูกค้ารับประทานอาหารราวชั่วโมงครึ่ง พอทานเสร็จเกือบทุกโต๊ะเขาก็จะนำถุงเท้าพลาสติกมาให้สวมเพื่อเตรียมลงไป สัมผัสกับน้องหมา

จากนั้น “คุณปอ-โชติรส รัตนะพีระพงศ์” เจ้าของร้าน True Love Café ก็จะมาแนะนำให้เรารู้จักกับน้องหมาที่มีกว่ายี่สิบตัว พร้อมกับบอกเล่าถึงที่มาที่ไปของการเปิด True Love Café ให้ฟัง ซึ่งโดยรวมแล้วเป็นเพราะว่าคุณปออยากให้ทุกคนที่สนใจหรือชื่นชอบสุนัขพันธุ์ ไซบีเรียนฮัสกี ได้ทำความรู้จักกับสุนัขพันธุ์นี้ให้ถ่องแท้ ได้ทำความเข้าใจกับนิสัยใจคอของพวกเขาก่อนที่จะตัดสินใจซื้อหามาเลี้ยง

“สุนัขพันธุ์นี้เป็นที่ใฝ่ฝันของคนจำนวนมาก แต่ก็เต็มไปด้วยข้อจำกัดในการเลี้ยงที่ทั้งยุ่งและยาก เราจึงอยากให้คนที่สนใจมาลองสัมผัสและซักถามวิธีการเลี้ยง การดูแลที่ถูกต้องกันก่อน จะได้รู้ว่าจะสามารถเลี้ยงและดูแลเขาได้ไหม เพราะไซบีเรียนฮัสกีมีนิสัยแตกต่างจากพันธุ์อื่น โดยเฉพาะที่เลี้ยงเป็นฝูงในฟาร์ม พวกเขาจะมีสัญชาตญาณของการเป็นผู้นำสูง และมีความเป็นตัวของตัวเอง รักอิสระ ชอบผจญภัยและไม่ค่อยเชื่อฟัง เรียกก็ไม่มา ต้องทำความเข้าใจตรงนี้ก่อน ถ้าเรารู้ว่าเลี้ยงไม่ได้ก็มาสัมผัสมาเล่นกับพวกเขาได้เป็นระยะๆ ที่ True Love Café ค่ะ” คุณปอกล่าว

ส่วนที่มาของชื่อร้านนั้น คุณปอบอกว่าเริ่มจากเดิมทีที่บ้านของเธอได้เปิดฟาร์มไซบีเรียนฮัสกีในชื่อ “Neverland” มาก่อน

“Neverland เป็นฟาร์มที่อยู่ในบ้านของเราจนเป็นชีวิตของเราทั้งหมด ไม่ใช่เพียงแค่ส่วนหนึ่งของชีวิตเรา เรามีความสุขกับการที่มีพวกเขา ถึงแม้จะทุกข์บ้างในยามที่เขาเจ็บป่วยหรือตายไปแต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆ ความสุขนี้เป็นความสุขที่เราได้รับจากการมีพวกเขา มันมากพอจนเราอยากที่จะแบ่งปัน จึงเป็นที่มาของความคิดที่จะทำเป็น Husky Cafe เล็กๆ ในฟาร์ม Neverland Siberians ที่เราตั้งชื่อว่า TrueLove Cafe”

พอเธอบรรยายจบก็จะให้ลูกค้าทุกคนล้างมือด้วยแอลกอฮอล์และลงไปสัมผัสน้อง หมาในโซนที่จัดไว้ ที่นี่มีน้องหมาหลายสีค่ะ ทั้งขนสีดำ ขนสีเทาเงิน และขนสีแดง แรกๆ น้องหมาจะอยู่ไม่นิ่งเลยค่ะ วิ่งไปวิ่งมาเริงร่ามาก แต่พอพี่เลี้ยงเขาถือกะละมังใส่น้ำแข็งมาเท่านั้นแหละ เหล่าน้องหมาก็กรูกันมาสุมหัวเคี้ยวน้ำแข็งเสียงดังกร้วมๆ เลย พอหม่ำเสร็จหลายตัวก็เอนกายลงนอนพักผ่อน ตอนนี้แหละที่เป็นโอกาสอันดีที่พวกเราสามารถเข้าไปนั่งประกบถ่ายรูปคู่ด้วย ได้

ทางร้านจะปล่อยน้องหมาออกมาทีละชุด ทั้งหมด 3 ชุด โดยชุดแรกมีเยอะสุดปล่อยออกมาจากห้องแอร์สิบกว่าตัว ชุดที่สองมี 6 ตัว และชุดสุดท้ายอีก 2 ตัว เพราะว่าแต่ละกลุ่มจะเป็นกลุ่มที่อยู่ด้วยกันได้ไม่ทะเลาะกันค่ะ นอกจากไซบีเรียนฮัสกีแล้วยังมี “โมโม่” สุนัขตัวกลมป้อมพันธุ์ผสมระหว่างชิทสุห์กับสปิทส์ที่เป็นขวัญใจของลูกค้า ด้วยความน่ารักและขี้เล่นของเจ้าตัว

ใครอยากไปสัมผัสใกล้ชิด ศึกษาและดูความเป็นอยู่ของสมาชิก Neverland Siberians ที่ TrueLove Cafe หากไปวันหยุดก็ควรโทรไปจองก่อนนะคะ ที่เบอร์ 090-101-9669 หรือ 085-908-2777 ส่วนใครที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ก็ลงที่สถานีอารีย์ ทางออกหมายเลข 1 จากนั้นก็ต่อแท็กซี่หรือตุ๊กๆ บอกว่าไปซอยอารีย์สัมพันธ์ 2 สุดซอยค่ะ ส่วนขากลับทางร้านมีบริการเรียกรถให้ด้วยนะคะ

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก http://www.zoomzogzag.com/2014/06/true-love-cafe/