ทำไม 'การบริหารเงินออมในครอบครัว' ถึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณควรใส่ใจ?

595



 

การจัดการเงินในครอบครัวนั้น จัดเป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญ เพราะแหล่งรายได้ที่เข้ามาในแต่ละเดือนจะต้องถูกจัดสรรให้เพียงพอต่อการตอบสนองความต้องการของสมาชิกทุกคน และยังต้องสะสมบางส่วนไว้สำหรับการออม เพื่อเตรียมไว้สำหรับค่าใช้จ่ายสำคัญที่อาจต้องจ่ายเป็นเงินก้อนใหญ่ในอนาคต

 

     สำหรับเรื่องของเงินออมครอบครัวนั้น มีความจำเป็นสำคัญๆ ที่ต้องจัดสรรเงินไว้ ดังนี้

 

1. เงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน

     ในแต่ละครอบครัวควรมีการจัดสรรเงินออม กันไว้ในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องและมูลค่าไม่ผันผวน อย่างเช่น เงินฝาก สลากออมทรัพย์ กองทุนรวมตลาดเงิน หรือกองทุนรวมตราสารหนี้ ขนาดเท่ากับ 6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน โดยกันแยกไว้จากค่าใช้จ่ายและการลงทุนต่างๆ สำหรับเผื่อความเสี่ยงกรณีที่รายได้ของใครคนใดคนหนึ่งหายไป (หรือทั้งคู่) จะได้มีเงินกินใช้ในช่วงเริ่มตั้งหลักใหม่ ไม่ต้องหยิบยืมและทำให้ต้องเป็นหนี้

 

เงินก้อนนี้ถือเป็นเงินออมก้อนแรกที่ควรสะสม และควรเป็นเงินออมที่ต้องตรวจสอบอยู่เสมอ อย่าให้พร่องลงไป และอย่าใช้ผิดจากวัตถุประสงค์ นั่นคือจะใช้ต่อเมื่อมีเหตุฉุกเฉินเท่านั้น

 

     ในกรณีที่ครอบครัวมีแหล่งรายได้หลายทาง และแต่ละแหล่งรายได้มีความมั่นคงสูง ก็อาจปรับลดเงินสำรองเหลือสัก 3 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือนได้

 

2. ค่าใช้จ่ายในการจัดการความเสี่ยง

     ในส่วนนี้หมายถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง รวมไปถึงประกันอุบัติเหตุ โดยแต่ละครอบครัว (และแต่ละบุคคลในครอบครัว) ก็จะมีระดับความเสี่ยงทางการเงินที่แตกต่างกันไป

 

     ดังนั้นในการพิจารณาและจัดสรรเงินออมในส่วนนี้ จึงต้องพิจารณาให้ครอบคลุมทั้งความเสี่ยงเชิงบุคคล และงบประมาณที่จะใช้เพื่อจัดการความเสี่ยงด้วย

 

ทั้งนี้ อาจพิจารณาเรื่องสิทธิประโยชน์ขั้นพื้นฐานต่างๆ ที่มี ว่าครอบคลุมเพียงพอและสอดคล้องกับเงินออมหรือไม่ เช่น ถ้าสิทธิรักษาพยาบาลข้าราชการ หรือประกันสังคมมีความเพียงพอ และเหมาะกับสถานการณ์การเงินปัจจุบัน การเลือกใช้สิทธิขั้นพื้นฐานเพื่อจัดการค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ก็ถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม แต่หากมีความพร้อม อยากได้บริการที่เพิ่มเติมมากขึ้น ก็อาจต้องกันเงินออมของครอบครัวเอาไว้จัดการกับภาระเหล่านี้ด้วย

 

3. ค่าเล่าเรียนลูก

     สำหรับครอบครัวที่มีลูก ค่าเล่าเรียนลูกถือเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่พอสมควร ยิ่งในปัจจุบันที่คุณพ่อคุณแม่พยายามส่งเสริมให้ลูกๆ ได้รับการศึกษาที่ดี ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ก็ยิ่งเพิ่มตามไปด้วย

 

     สำหรับการออมเพื่อเก็บสะสมไว้เป็นค่าเล่าเรียนลูก อาจมีการจัดแบ่งการสะสมตามช่วงวัยของการเรียนได้ อย่างเช่น ค่าเล่าเรียนในช่วง 1-3 ปี อาจสะสมไว้ในสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ (เนื่องจากใกล้จะได้ใช้เงินแล้ว) เช่น เงินฝาก สลากออมทรัพย์ กองทุนรวมตลาดเงิน กองทุนรวมตราสารหนี้

 

     ส่วนเงินค่าเล่าเรียนที่สะสมไว้ในระยะยาวกว่านั้น ก็อาจปรับสัดส่วนให้มีการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มได้บ้าง เช่น กองทุนรวมหุ้น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ หรือประกันชีวิต

 

เรื่องนี้ครอบครัวอาจวางแผนร่วมกัน และเก็บค่ามูลค่าใช้จ่ายประกอบการวางแผน เพื่อให้ข้อมูลมีความถูกต้องแม่นยำและใกล้เคียงกับความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินในอนาคตได้

 

หัวใจสำคัญก็คือต้องจัดสรรเงินสะสมในช่องทางต่างๆ ตั้งแต่เนิ่นๆ อย่ารอให้ใกล้เกษียณ

 

4. เงินออมเพื่อเป้าหมายระยะสั้น

     ในระยะ 2-3 ปี แต่ละครอบครัวอาจมีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนในกิจกรรมสำคัญ อย่างเช่น เก็บเงินดาวน์บ้านหลังใหม่ ออกรถยนต์คันใหม่ หรือทริปท่องเที่ยวต่างประเทศ ฯลฯ

 

     เป้าหมายเหล่านี้ถ้าไม่มีการวางแผนและสะสมเงินออมไว้ ก็ไม่ง่ายที่จะประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย ดังนั้นแต่ละครอบครัวควรมีการพูดคุยเรื่องของเป้าหมายและแผนการเงินเป็นประจำทุกปี เพื่อกำหนดแผนการออมในการที่จะบรรลุเป้าหมายทางการเงินที่ครอบครัวฝันไว้

 

5. ทุนเกษียณ และการสะสมความมั่งคั่ง

     หลายครั้งที่คนเป็นพ่อแม่มักให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและสนับสนุนบุตรหลาน จนลืมวางแผนการเงินของตัวเองในช่วงหยุดทำงาน

 

ลองเริ่มต้นวางแผนเกษียณง่ายๆ โดยคาดการณ์ว่าหลังเกษียณจะใช้เงินเดือนละเท่าไหร่ และถ้าต้องอยู่หลังเกษียณยาว 15-20 ปี จะต้องมีเงินเก็บเท่าไหร่ จากนั้นจึงค่อยมาพิจารณาเครื่องมือต่างๆ ที่มีการลงทุนในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น

 

การลงทุนภาคบังคับ อย่างเช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนประกันสังคม

การลงทุนเพิ่มเติม อย่างเช่น กองทุนรวมเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี กองทุนรวม หุ้น อสังหาริมทรัพย์ ทองคำ สลากออมทรัพย์ ประกันชีวิต ประกันบำนาญ ฯลฯ

     ลองตรวจดูในทุกช่องทาง ว่าทั้งหมดที่สะสมนั้นเพียงพอ หรือแผนการออมของเรามีโอกาสบรรลุเป้าหมายเกษียณได้หรือไม่ ถ้าไม่ ก็ให้ปรับเพิ่มเติม

 

     หัวใจสำคัญก็คือต้องจัดสรรเงินสะสมในช่องทางต่าง ๆ ตั้งแต่เนิ่น ๆ อย่ารอให้ใกล้เกษียณ ลูกเรียนจบกันหมด แล้วค่อยมาเริ่มวางแผนเก็บเงินเกษียณ รับรองว่าไม่ทันแน่นอน

 

     นอกเหนือจาก 5 ข้อ ที่หยิบมาคุยกันในบทความนี้ แต่ละครอบครัวอาจมีความต้องการที่แตกต่างกันออกไปในประเด็นอื่นๆ แต่ทั้งหมดก็สามารถตอบสนองและทำให้บรรลุเป้าหมายได้ด้วยการวางแผนการออมที่เหมาะสม

 

สำหรับใครที่มีครอบครัวแล้ว ก็ลองหยิบประเด็นสำคัญในบทความนี้กลับไปประเมินการจัดสรรเงินออมของครอบครัวคุณดูนะครับ รับรองว่าได้ประโยชน์ และช่วยเติมเต็มโอกาสทางการเงินของครอบครัวคุณได้อย่างแน่นอนครับ

 

 

ข้อมูล : gqthailand.com

 

 

Thaipur talk :  มหาธน อีเลคทริค บจก.จัดจำหน่าย อุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูง-แรงต่ำ ทุกชนิด อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม ทุกชนิด รับทำตู้สวิทช์บอร์ด ทุกแบบ ทุกขนาด ตามสั่ง อาทิเช่น มิเตอร์, โคมไฟ, ไทม์เมอร์, อุปกรณ์กันระเบิด, ปลั๊ก สวิทซ์, เพาเวอร์ปลั๊ก เป็นต้น จากประสบการณ์ในการจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้ามากว่า 20 ปี

 

 

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อน กับ LINE Thaipurchasing

 

   

sendLINE

Comment