สปป.ลาว จากดินแดน แลนด์ล็อค ไปสู่ แลนด์ลิงค์ เส้นทางขนถ่ายสินค้าสู่ตลาดโลก

3.0K



สปป.ลาว จากดินแดน แลนด์ล็อค ไปสู่ แลนด์ลิงค์ เส้นทางขนถ่ายสินค้าสู่ตลาดโลก

สปป.ลาว เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจาก Land Lock ไปสู่ Land Link ด้วยเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจตะวันตก – ตะวันออก (East-West Economic Corridor) ระหว่างพม่า-ไทย-สปป.ลาว-เวียดนาม (ระยะทางใน สปป.ลาว 245 กม.) โดยมีสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 เป็นจุดเชื่อมไทย-ลาว ทำให้ สปป.ลาวมีทางออกสู่ทะเลทั้งที่ท่าเรือแหลมฉบังของไทย และท่าเรือดานังของเวียดนามที่เป็นทางเลือกในการขนถ่ายสินค้าออกสู่ตลาดโลก และเส้นทางหมายเลข R3A ที่เป็นเส้นทางแห่งหนึ่งในโครงการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจ

ตามระเบียงเหนือ-ใต้ (North-South Economic Corridor) เชื่อมต่อระหว่างไทย (อ.เชียงของ จ.เชียงราย) – สปป.ลาว (แขวงบ่อแก้ว แขวงหลวงน้ำทา) – จีน (สิบสองปันนา-คุนหมิง) เส้นทางใน สปป.ลาว ยาวประมาณ 247 กม. แล้วเสร็จเมื่อ ก.พ.2551 และเส้นทางในจีน แล้วเสร็จในปี 2552 โดยมีสะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 เป็นจุดเชื่อมไทย-ลาว (กำหนดแล้วเสร็จในปี 2555) ทำให้สปป.ลาวกลายเป็นสะพานเชื่อมอินโดจีน (Land Bridge)

โอกาสทางการค้าที่ส่งเสริมการขยายตัวทางการค้าระหว่างไทยกับ สปป.ลาว
1. เศรษฐกิจของ สปป.ลาว มีอัตราการเติบโตในระดับสูง GDP Growth ที่สูงขึ้นทุกปี ส่งผลให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มสูงขึ้นส่งผลต่อกำลังซื้อที่มากขึ้นด้วย
2. รัฐบาลไทยมีนโยบายและกำหนดทิศทางความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านที่ชัดเจนและจริงจัง

3. สปป.ลาว เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจาก Land Lock ไปสู่ Land Link ด้วยเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจตะวันตก – ตะวันออก (East-West Economic Corridor) ระหว่างพม่า-ไทย-สปป.ลาว-เวียดนาม (ระยะทางใน สปป.ลาว 245 กม.) โดยมีสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 เป็นจุดเชื่อมไทย-ลาว ทำให้ สปป.ลาวมีทางออกสู่ทะเลทั้งที่ท่าเรือแหลมฉบังของไทย และท่าเรือดานังของเวียดนามที่ทางเลือกในการขนถ่ายสินค้าออกสู่ตลาดโลก และเส้นทางหมายเลข R3A ที่เป็นเส้นทางแห่งหนึ่งในโครงการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจ

ตามระเบียงเหนือ-ใต้ (North-South Economic Corridor) เชื่อมต่อระหว่างไทย (อ.เชียงของจ.เชียงราย) – สปป.ลาว (แขวงบ่อแก้ว แขวงหลวงน้ำทา) – จีน (สิบสองปันนา-คุนหมิง) เส้นทางใน สปป.ลาว ยาวประมาณ 247 กม. แล้วเสร็จเมื่อ ก.พ.2551 และเส้นทางในจีน แล้วเสร็จในปี 2552 โดยมีสะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 เป็นจุดเชื่อมไทย-ลาว (กำหนดแล้วเสร็จในปี 2555) ทำให้สปป.ลาวกลายเป็นสะพานเชื่อมอินโดจีน (Land Bridge)

ดังนั้น ถนนทุกสายจึงหันมาสนใจการลงทุนทำการค้ากับ สปป.ลาว มากขึ้น เพราะระบบ Logistics ที่มีการเปลี่ยนแปลงการคมนาคมขนส่งที่ถ่ายเทได้สะดวกขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการเริ่มมอง สปป.ลาว ทะลุไปยังเวียดนาม และจีน

4. สปป.ลาว อยู่ท่ามกลางประเทศเศรษฐกิจดาวรุ่งทางเหนือติดจีน(ยูนนาน 43 ล้านคน) ตะวันตกเป็นไทย (65 ล้านคน) ด้านตะวันออกเป็นเวียดนาม (83 ล้านคน) และทางตอนใต้เป็น สปป.ลาว (13 ล้านคน) เฉพาะตลาดตามรอยตะเข็บชายแดน มีประชาชนไม่ต่ำกว่า 200 ล้านคน กล่าวได้ว่า สปป.ลาว อยู่ท่ามกลาง “ทะเลคน” รอบด้านเป็นประเทศที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ดังนั้น หากมีการบริหารจัดการที่ดีเป็นโอกาสในการฟื้นฟูประเทศได้อย่างรวดเร็ว

5. สปป.ลาว จัดอยู่ในประเทศยากจนแต่มีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ มีพื้นที่การเกษตรขนาดใหญ่ที่มีค่าเช่าถือครองที่ดินที่ไม่สูงมากนักและสามารถเช่าได้ในระยะเวลานานพอสมควร มีแร่ธาตุต่างๆ แทบทุกชนิดเช่น ถ่านหินลิกไนต์ ดีบุก ยิปซั่ม ตะกั่ว สังกะสี บ็อกไซต์เหล็ก ทองแดงอัญมณี ไปจนถึงเหมืองทองคำขนาดใหญ่ในเอเชีย ที่รู้จักในนามของเหมืองเซโปน แขวงสะหวันนะเขต เป็นเหตุให้นักลงทุนเข้าไปลงทุนกันมากขึ้น

6. สปป.ลาว มีนโยบายในการผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำ 20,000 เมกกะวัตต์ต่อปี สปป.ลาวถือว่าเป็นแบตเตอรี่แห่งเอเชีย แต่ปัจจุบันมีการใช้ไปเพียงร้อยละ 2 เท่านั้น ในขณะนี้ทางไทยได้เข้าไปลง MOU เพื่อสร้างเขื่อนซื้อไฟฟ้าจาก สปป.ลาว หลายโครงการ อีก 5 ปีข้างหน้า มูลค่าการส่งออกไฟฟ้าของ สปป.ลาว อาจจะเกินดุลการค้ากับประเทศไทย

7. ได้รับสิทธิพิเศษทางการค้า

8. โครงการ Contract Farming ทำให้ธุรกิจการเกษตรไทยเข้าไปลงทุนใน สปป.ลาว มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการปลูกพืชผลทางการเกษตร ปศุสัตว์ เป็นต้น
9. มีการเจรจาแผนความร่วมมือ ทางการค้าระหว่างกระทรวงพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า สปป.ลาว ในหลายเวทีเพื่อลดปัญหาอุปสรรคทางการค้าอำนวยความสะดวกให้เกิดความลื่นไหลทางการค้าเป็นระยะๆ มากขึ้น

10. สปป.ลาว มีเสถียรภาพทางการเมือง ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินสูงและค่าแรงงานไม่แพงนัก
11. มีชนเผ่าต่างๆ มากมายทำให้มีความหลากหลายทางด้านการท่องเที่ยว

ที่มา : http://www.fact.fti.or.th/th


ASEAN FAIR 2017 งานที่คุณสามารถขายสินค้า หาตัวแทนจำหน่าย สร้างเครือข่าย และขยายธุรกิจ สร้างมูลค่าได้มากกว่า 1800 ล้านบาท ภายใน 3 วัน พบกัน
13-15 ตุลาคม 2560 ณ สะหวันไอเตค แขวงสะหวันนะเขต


ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ :
Tel. : 02-192-1685-6
Fax : 02-192-1689
Mobile :  086-310-2493 (K.แอม), 086-303-5847 (K.ตั้ม)
e-Mail : marketing@thaipurchasing.com

@Line THAIPURCHASING

sendLINE

Comment