ตลาดน้ำปลาหมื่นล้านคึกคัก "ตราปลาหมึก" เดินหน้ารุกตลาดใน-ต่างประเทศเต็มสูบ เล็งแตกไลน์สินค้าใหม่ทั้งซอสพริก น้ำปลาซอง พร้อมเพิ่มช่องทางขายเจาะเข้าโรงแรม ร้านอาหาร ฯลฯ หวังดันยอดขายโต 10%

"ตราปลาหมึก" ถือเป็นแบรนด์น้ำปลาที่มีความแข็งแกร่ง และอยู่ในตลาดมายาวนานกว่า 4 ทศวรรษ ด้วยส่วนแบ่งตลาดกว่า 25% ในตลาดน้ำปลาเมืองไทยซึ่งมีมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท แต่เป็นตลาดน้ำปลาแท้ราว 50% หรือประมาณ 5,000 ล้านบาท ภายใต้การนำของผู้บริหารรุ่นใหม่ ถือเป็นความท้าทายในการสานต่อธุรกิจและผลักดันให้มียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น

โดยนางปรญา คุณาเทียน กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงงานน้ำปลาไทย (ตราปลาหมึก) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย น้ำปลา และซอสปรุงรส "ตราปลาหมึก" เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า นโยบายของบริษัทเน้นการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศโดยบริษัทเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งในไลน์สินค้าเดิมคือน้ำปลา และแตกไลน์สินค้าใหม่เพื่อเพิ่มความหลากหลาย รวมทั้งเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าจากปัจจุบันที่มีวางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้าชั้นนำกว่า 70% โดยจะเน้นเจาะไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และโรงงานผลิตอาหาร ฯลฯ ให้มากขึ้น

โดยหนึ่งในแนวทางการขยายฐานลูกค้าใหม่ และเพิ่มช่องทางการตลาดใหม่ๆ คือ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศ เช่นการออกงาน THAIFEX 2017 - WORLD OF FOOD ASIA 2017 ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ทำให้บริษัทมีแผนออกงานแสดงสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันบริษัทส่งออกสินค้าไปจำหน่ายในประเทศต่างๆ กว่า 70 ประเทศทั่วโลก ซึ่งการได้รับใบรับรองมาตรฐาน FSSC 22000 (Food Safety System Certification 22000) สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
 

‘ตราปลาหมึก’แตกไลน์ เพิ่มช่องทางเจาะตลาดไทย-เทศ ดันยอดขายโต10%

"ตราปลาหมึกมีวางจำหน่ายไปทั่วโลก ทั้งในอเมริกา ยุโรป แคนาดา และออสเตรเลีย โดยมีมูลค่าการส่งออกกว่า 400 ล้านบาท นอกจากนี้ในประเทศเพื่อนบ้าน ก็วางจำหน่ายและเข้าไปทำตลาดแล้วทั้งที่เมียนมาร์ ลาว และ กัมพูชา โดยมองว่าประเทศในแถบอาเซียนเป็นประเทศที่มีศักยภาพ เห็นได้จากการเติบโตในช่วง2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้มองว่ามีโอกาสขยายตัวและเติบโตได้อีกมาก" นางปรญากล่าวและว่า

สำหรับแผนการทำตลาดในประเทศนั้น บริษัทให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง โดยการใช้สื่อครบวงจรทั้งอะเบิฟ เดอะ ไลน์ และบีโลว์ เดอะ ไลน์ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง และเป็นการตอกย้ำแบรนด์โดยใช้สื่อโทรทัศน์เป็นหลัก ผนวกกับสื่อนอกบ้าน เช่น สื่อโฆษณาบนรถโดยสารประจำทาง ฯลฯ นอกจากนี้ยังเน้นการทำกิจกรรมตามพื้นที่ต่างๆ ทั้งการแจกสินค้าตัวอย่าง การสาธิตชงชิม ณ จุดขาย เป็นต้น นอกจากนี้ยังเน้นใช้สื่อโซเชียล มีเดีย ทั้งfacebook , LINE , Youtube ฯลฯ เพื่อสร้างการรับรู้ข่าวสาร ให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ด้วย

"ตราปลาหมึกเป็นแบรนด์ที่อยู่กับคนไทยมายาวนาน เป็นที่รู้จักอยู่แล้วแต่การทำตลาดยังจำเป็นต้องตอกย้ำแบรนด์เพื่อสร้าง Brand Identity และ Brand Awareness ไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ดังนั้นการใช้สื่อต่างๆ จะช่วยสร้างการจดจำ และเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น"
 

‘ตราปลาหมึก’แตกไลน์ เพิ่มช่องทางเจาะตลาดไทย-เทศ ดันยอดขายโต10%

นางปรญา กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตและส่งออกไปทั่วโลก บริษัทเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ภายใต้ชื่อ "ทุกวินาที ความอร่อยจากไทยไม่เคยหลับใหล" เพื่อบอกเล่าถึงองค์กรที่อยู่คู่กับคนไทยมายาวนานกว่า 40 ปี ใส่ใจเรื่องของคุณภาพ และการพัฒนาสินค้าที่ไม่หยุดนิ่ง ด้วยกระบวนการผลิต การตรวจสอบ การควบคุมคุณภาพ จนได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศ จนปัจจุบันมีการส่งออกไปกว่า 70 ประเทศทั่วโลก

อย่างไรก็ดีในปีนี้บริษัทเตรียมเปิดตัวซอสพริกตราปลาหมึก ซึ่งพัฒนาขิ้นเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค โดยเริ่มทดลองวาจำหน่ายในงานไทยเฟล็กซ์ฯ ที่ผ่านมาและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งนักธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงผู้บริโภคทั่วไป ทำให้บริษัทมีแผนเดินหน้าวางจำหน่ายเต็มตัวในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดตัวน้ำปลาตราปลาหมึกแบบซอง ออกวางจำหน่ายหลังจากที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมาและพบว่า เป็นตลาดที่มีการเติบโตดี สอดรับกับพฤติกรรมคนไทยรุ่นใหม่ที่มีครอบครัวขนาดเล็กและนิยมรับประทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมียอดขายเพิ่มขึ้น 10%

ที่มาข่าวจาก : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 18 - 21 มิ.ย. 60
ภาพประกอบ : http://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2017/06/19125886_1579993208690948_1193469113_o.jpg

ASEAN FAIR 2017 งานที่คุณสามารถขายสินค้า หาตัวแทน สร้างเครือข่าย ขยายธุรกิจ สร้างมูลค่าได้มากกว่า 1800 ล้านบาท
ภายใน 3 วัน  พบกัน
13-15 ตุลาคม 2560 ณ สะหวันไอเตค แขวงสะหวันนะเขต

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ :
Tel. : 02-192-1685-6
Fax : 02-192-1689
Mobile :  086-310-2493 (K.แอม), 086-303-5847 (K.ตั้ม)
e-Mail : marketing@thaipurchasing.com