จี้รัฐฯเร่งก.ม.โต้ทุ่มตลาด หนุนผู้ค้าช่วงเหล็กขาขึ้น

1.6K



4 ปัจจัยหลักหนุนราคาเหล็กขยับต่อเนื่อง เร่งรัฐคลอดก.ม.ตอบโต้การหลีกเลี่ยงการทุ่มตลาด ด้านเวที SEAISI วอนจีนถ้าลงทุนในอาเซียนขอเป็นโรงงานฃที่มีคุณภาพ

นายนาวา จันทนสุรคน อุปนายกสมาคมเหล็กแผ่นรีดร้อนไทย เปิดเผย ถึงสถานการณ์ราคาเหล็กในขณะนี้ว่า มีราคาเฉลี่ยทั้งเหล็กเส้นและเหล็กแผ่นยังยืนอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่องดูจากราคาปัจจุบันขยับจากราคา 1.20-1.30 หมื่นบาทต่อตันเป็น 1.80-1.90 หมื่นบาทต่อตัน เทียบจากที่ราคาเหล็กเฉลี่ยเคยสูงสุดเมื่อปี 2554 ที่ราคายืนอยู่2.60 หมื่นบาทต่อตัน โดยปีนี้ราคาเฉลี่ยน่าจะทรงตัว แม้บางช่วงอาจจะมีการปรับขึ้น-ลงตามราคาวัตถุดิบบ้าง แต่จะไม่ผันผวนรุนแรง

ทั้งนี้ราคาเหล็กที่ยืนอยู่ในเกณฑ์ดีนั้น มาจากปัจจัยบวก 4 ปัจจัยหลักดังนี้ 1.ได้รับอานิสงค์จากราคาพืชผลทางการเกษตรดีขึ้น เกิดการสร้างบ้านใหม่ หรือซ่อมแซมบ้าน มีการซื้อรถใหม่ 2.การส่งเสริมการลงทุนจากภาครัฐทำให้เกิดการก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมทั้งส่วนที่ขยายการลงทุนและการเข้ามาตั้งโรงงานใหม่ในประเทศไทย 3.เกิดจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่จากภาครัฐ 4. จีนส่งออกเหล็กไปยังตลาดโลกชะลอตัวลง หลังจากที่ราคาเหล็กในจีนเมื่อปลายปีที่แล้วปรับตัวดีขึ้น ทำให้โรงงานเหล็กสามารถขายเหล็กในประเทศจีนได้มากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณการทุ่มตลาดเหล็กมายังตลาดโลกลดลง เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี โดยจีนส่งออกไปยังตลาดโลกลดลงจาก 110 ล้านตัน เหลือ 108 ล้านตัน

นายนาวากล่าวอีกว่า สำหรับประเทศไทย อยากให้รัฐบาลเร่งออกกฎหมายตอบโต้การหลีกเลี่ยงการทุ่มตลาดหรือที่เรียกว่า Anti-Circumvention ให้เร็วขึ้น เพื่อควบคุมไม่ให้ผู้นำเข้าหลีกเลี่ยงพิกัด เช่น การนำเหล็กไปเจือโบรอนเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด(เอดี) และภาษีอากรขาเข้า ที่ขณะนี้ร่างพ.ร.บ.กฎหมายตอบโต้การหลีกเลี่ยงการทุ่มตลาดของกระทรวงพาณิชย์เสร็จแล้ว แต่เรื่องยังไปค้างอยู่ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาประเทศไทยได้กำหนดมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและมาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นกว่า 10 กรณี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าเหล็ก เช่น เหล็กรีดร้อน เหล็กรีดเย็น เหล็กกล้าไร้สนิม ฯลฯ โดยประเทศที่ส่งสินค้าทุ่มตลาดเข้ามายังประเทศไทยสูงสุดคือ จีน

นอกจากนี้วงการเหล็กในอาเซียนยังตั้งข้อสังเกตว่าปี2560 จีนจะปิดโรงงานผลิตเหล็กด้อยคุณภาพและเป็นโรงงานที่สร้างปัญหามลพิษ โดยโรงงานเหล็กที่หลอมด้วยเตา Induction Furnace หรือการผลิตเหล็กกล้าด้วยเตาเหนี่ยวนำกระแสฟ้าโดยขีดเส้นภายในเดือนกรกฎาคมนี้จะต้องปิดให้หมด

"ทำให้ผู้ผลิตเหล็กในอาเซียนวิตกว่ากำลังผลิตเหล็กด้อยคุณภาพจากจีนจะถูกส่งออกมายังอาเซียนมากขึ้น ทำให้การประชุมสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAISI) นัดล่าสุด หารือร่วมกันว่าถ้าจีนลงทุนในอาเซียนขอเป็นโรงงานที่มีคุณภาพ และอย่าตั้งโรงงานที่ทับซ้อนกับโรงงานที่มีอยู่แล้วในประเทศนั้นๆ "

ด้านนายกรกฏ ผดุงจิตต์ เลขาธิการกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวถึงราคาเหล็กว่า นับตั้งแต่ปลายปี 2559 เป็นต้นมาราคาในตลาดโลกขยับมาตลอดกว่า 10% แล้ว นอกจากจีนลดการผลิตลงแล้ว น่าจะมาจากที่ 2 โรงงานผลิตเหล็กรายใหญ่ในญี่ปุ่น และอีก 1 ค่ายเหล็กรายใหญ่ในเกาหลี มีการปิดโรงงานผลิตเหล็กเพื่อซ่อมบำรุงชั่วคราวนานหลายเดือน ส่งผลให้ราคาเหล็กในตลาดโลกกลับมาดีขึ้น คาดว่าราคาเหล็กจะยืนอยู่ในแดนบวกต่อเนื่องจนถึงกลางปีนี้ หลังจากนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณเหล็กจากจีนที่ออกมาขายในตลาดโลกว่าจะมากขึ้นหรือน้อยลงเป็นตัวแปรสำคัญ

ที่มาข่าวจาก : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,248 วันที่ 30 มีนาคม - 1 เมษายน พ.ศ. 2560


@Line THAIPURCHASING
THAIPURCHASING.com !!! มี LINE Official แล้วรู้ยัง
สอบถามหาข้อมูลสินค้าหรือกิจกรรมต่างๆของเรา ได้ทุกวันผ่าน 

กดถูกใจ FanPage เพื่อติดตามกิจกรรมของเราได้ที่ :

กดถูกใจแฟนนเพจ คลิก PURCHASING Industrial Products
Facebook.com/thaipurchasing.tensho

sendLINE

Comment