บางจาก แตกไลน์ธุรกิจ มุ่งโหมผลิตภัณฑ์ชีวภาพ

1.8K



บางจาก เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น”บางจาก คอปอร์เรชั่น” หวังสร้างความชัดเจนการดำเนินธุรกิจมากขึ้น มุ่งสู่อุตสาหกรรมเป้าหมาย ผลิตภัณฑ์ชีวภาพ และ แหล่งกักเก็บพลังงาน หนุนการลงทุนในอีอีซี พร้อมไล่ซื้อหุ้นเหมืองแร่ลิเธียมเพิ่ม

ในวันที่ 5 เมษายน 2560 นี้ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) จะมีการประชุมผู้ถือหุ้น และจะเสนอขอให้มีการเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ เป็นบริษัท บางจาก คอปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อสร้างความชัดเจนในการดำเนินธุรกิจของบางจากมากขึ้น และพร้อมจะเข้าสู่ธุรกิจใหม่ที่ใช้นวัตกรรมสูงขึ้น จากการทุ่มงบวิจัยและพัฒนาในปีนี้กว่า 500 ล้านบาท

อย่างโครงการผลิตภัณฑ์ชีวภาพ โครงการบริหารการใช้พลังงานผ่านการกักเก็บพลังงานหรือ Energy Storaageในรูปแบบต่างๆ ที่จะมารองรับการขับเคลื่อนระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซี ได้ส่วนหนึ่ง หลังจากที่บางจากเข้าสู่ธุรกิจการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ธุรกิจเอทานอลและไบโอดีเซล

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเปลี่ยนชื่อของบริษัทใหม่ จะทำให้มีความชัดเจนมากขึ้นว่า ไม่ได้ดำเนินธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันและค้าปลีกน้ำมันสำเร็จรูปเท่านั้น แต่ในอนาคตจะก้าวเข้าสู่ธุรกิจที่มีการใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมขั้นสูง อย่างโครงการผลิตภัณฑ์ชีวภาพหรือผลิตภัณฑ์พีซีเอ็ม เป็นสารส่วนประกอบของฉนวนกันความร้อน ที่ต่อยอดมาจากไบโอดีเซล ซึ่งผลการวิจัยจะแล้วเสร็จในเดือนเมษายนนี้ และหลังจากนั้นจะลงทุนเป็นโครงการนำร่องขึ้นมา เพื่อขยายไปสู่เชิงพาณิชย์ต่อไปในระยะ 2-3 ปีนี้

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะตั้งอยู่ในพื้นที่ฉะเชิงเทรา ซึ่งบริษัทมีพื้นที่อยู่แล้วประมาณ 500 ไร่ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จะถูกส่งออกไปญี่ปุ่น ส่วนการลงทุนนั้นจะต้องดูผลของความสำเร็จจากโครงการนำร่องก่อน รวมถึงอยู่ระหว่างการวิจัยและพัฒนาสาหร่าย เพื่อผลิตเป็นส่วนประกอบของอาหารเสริมด้วย

นอกจากนี้ ยังวิจัยและพัฒนาการนำแร่ลิเธียมมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตแหล่งกักเก็บพลังงาน โดยเฉพาะการนำมาใช้สำหรับการกักเก็บไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อส่งไฟฟ้าขาย แต่เนื่องจากเป็นเรื่องใหม่ที่ยังไม่มีการกำหนดนโยบายออกมา

ดังนั้น จึงอยากให้ภาครัฐพิจารณาในส่วนนี้ เพราะจะช่วยลดการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพื้นฐานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลได้ทางหนึ่ง เนื่องจากมีการจ่ายไฟฟ้าที่แน่นอนเหมือนกับโรงไฟฟ้าพื้นฐานได้ แต่ในระยะเริ่มแรกค่าไฟฟ้าที่รับซื้อนั้นจะต้องสูงกว่าค่าไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์ 2-3 ตัว จากปัจจุบันที่รับซื้อยู่ราว 4 บาทต่อหน่วย หากนโยบายนี้เกิดขึ้นได้ จะช่วยให้เกิดการกระตุ้นตลาดหรือการลงทุนด้าน Energy Storaageในประเทศได้

ที่มาจาก : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 9 – 11 มีนาคม พ.ศ. 2560
ภาพประกอบ : www.bangchak.co.th


@Line THAIPURCHASING
THAIPURCHASING.com !!! มี LINE Official แล้วรู้ยัง
สอบถามหาข้อมูลสินค้าหรือกิจกรรมต่างๆของเรา ได้ทุกวันผ่าน 

กดถูกใจ FanPage เพื่อติดตามกิจกรรมของเราได้ที่ :

กดถูกใจแฟนนเพจ คลิก PURCHASING Industrial Products
Facebook.com/thaipurchasing.tensho

sendLINE

Comment