เครื่องประดับเงินหวัง ยอดส่งออกปีนี้โต 3% ลุ้นสหรัฐฯขึ้นภาษีสินค้าจีนไทยได้อานิสงส์

ส่งออกเครื่องประดับเงินเล็งส่งออกโต 3 % ลุ้นสหรัฐฯขึ้นภาษีสินค้าจีนไทยได้อานิสงส์
ขณะตลาดออสเตรเลียโตต่อเนื่อง จี้คลังยกเว้นแวตวัตถุดิบช่วยเพิ่มสภาพคล่อง

นายวิบูลย์ หงส์ศรีจินดา นายกสมาคมผู้ส่งออกเครื่องประดับเงิน เปิดเผยว่า ในปีนี้ทางสมาคมคาดหวังการส่งออกเครื่องประดับทำด้วยเงินของไทยจะขยายเพิ่มขึ้น 3% ทั้งนี้มองปัจจัยบวกจากกรณีที่นายโดนัลด์ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาประกาศจะขึ้นภาษีสินค้าจากจีนตามที่หาเสียงไว้ สินค้าไทยจะได้อานิสงส์เป็นตัวเลือกในการนำเข้าทดแทนเพิ่มขึ้น ขณะที่เวลานี้ตลาดออสเตรเลียได้หันมานำเข้าสินค้าจากไทยทดแทนสินค้าจีนทำให้ยอดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดียังมีปัจจัยลบ จากเศรษฐกิจโลกในภาพรวมยังไม่สดใสนัก รวมถึงแนวโน้มการเกิดสงครามการค้าจากสหรัฐฯกีดกันสินค้าจีน และสินค้าจากเม็กซิโก เศรษฐกิจของสหภาพยุโรป(อียู)อีกหนึ่งตลาดสำคัญยังน่าห่วง รวมถึงค่าเงินบาทที่ยังมีแนวโน้มผันผวน ส่งผลถึงราคาวัตถุดิบเงินไม่คงที่ ผู้ประกอบการต้องบริหารความเสี่ยง

“ในปีนี้หากการส่งออกเครื่องประดับเงินในรูปดอลลาร์สหรัฐฯขยายตัวได้ 3% ก็ถือว่าเก่ง แต่ส่วนตัวมองหากไม่ลดลงจากปีที่ผ่านก็น่าพอใจแล้ว จากที่ปีที่แล้วการส่งออกเครื่องประดับเงินของไทยติดลบ”

ด้านอุปสรรคของอุตสาหกรรม ล่าสุดทางสมาคมได้ทำเรื่องขอให้ทางกระทรวงการคลังยกเว้นการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม(แวต)สำหรับวัตถุดิบเนื้อเงินนำเข้าและซื้อขายในตลาดที่ยังต้องเสียแวต 7% หากยกเว้นได้จะส่งผลดีต่อสภาพคล่องของผู้ประกอบการ รวมถึงจะทำให้เข้าสู่ระบบการเสียภาษีที่ถูกต้องเพิ่มขึ้น และจะช่วยเพิ่มยอดส่งออกเครื่องประดับเงินของไทยได้

อนึ่ง ในปี 2559 ไทยมีการส่งออกเครื่องประดับทำด้วยเงินมูลค่า 1,560.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวลดลงจากปีก่อน 1.6% โดยตลาดส่งออก 5 อันดับแรกได้แก่ สหรัฐ เยอรมนี ออสเตรเลีย ฮ่องกง และจีน สัดส่วน 33, 27.3, 6.7, 4.9 และ 4.2% ตามลำดับ

ที่มาจาก : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 9 – 11 กุมภาพันธ์ 2560

THAIPURCHASING.com !!! มี LINE Official แล้วรู้ยัง
สอบถามหาข้อมูลสินค้าหรือกิจกรรมต่างๆของเรา ได้ทุกวันผ่าน 

กดถูกใจ FanPage เพื่อติดตามกิจกรรมของเราได้ที่ :


Facebook.com/thaipurchasing.tensho