ประดับยนต์หาโปรดักต์ใหม่ ยางไทย-จีนทำไฟต์ติ้งแบรนด์

2.4K



ประดับยนต์หาโปรดักต์ใหม่ ยางไทย-จีนทำไฟต์ติ้งแบรนด์

ตลาดทดแทนสินค้ายานยนต์ที่มูลค่าระดับหมื่นล้านบาทต่อปีพยายามดิ้นสู้จากภาวะเศรษฐกิจและตลาดรถยนต์ที่ซบเซา ทั้ง ล้ออัลลอยฟิล์มกรองแสง แบตเตอรี ยางรถยนต์ ต่างพยายามปรับตัวด้วยการเพิ่มสินค้าแบรนด์ใหม่มาเสริมกลยุทธ์การขาย ,พัฒนาช่องทางการขาย รวมถึงขยับไปสู่การทำตลาดออนไลน์

ตลาดอาฟเตอร์มาร์เก็ตถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีการแข่งขันกันดุเดือดไม่แพ้ธุรกิจขายรถยนต์ใหม่ยิ่งในช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจซบ ปัจจัยลบรอบด้าน ทำให้ผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัวกันยกใหญ่

เช่นเดียวกับตลาดล้ออัลลอยด์ที่เคยคึกคักหรือขายกระฉูดในช่วงตลาดรถยนต์ทะลุ 1 ล้านคัน (ปี2555, 2556) แต่ในช่วง 3 ปีหลังก็ซึมตามยอดขายรถยนต์ที่ลดลง ขณะที่ผู้ผลิตและจำหน่ายรายใหญ่ “เลนโซ่”ยืนยันว่าสถานการณ์การขายยังดีอยู่ ต่างจากแบรนด์ล่างที่เป็นของก๊อบปี้

“ปีที่ผ่านมาเรายังทำยอดขายเติบโต 15% สวนทางกับภาพรวมตลาดที่ลดลง 5% ซึ่งต่างจากพวกแบรนด์ก๊อบปี้ที่ได้รับผลกระทบมากกว่า” สรรชัย บุญทวีกิจรองประธานกรรมการบริษัทเลนโซ่ วีล จำกัดกล่าวและว่า

เลนโซ่ทำการตลาดผ่านสื่อออนไลน์มา 5 ปี ซึ่งประสบความสำเร็จมาก โดยเดินควบคู่ไปกับการออกอีเวนต์เป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันรถยนต์รายการใหญ่ๆพร้อมเดินสายโรดโชว์ 4-6งานต่อเดือน ทั่วประเทศ

เช่นเดียวกับตลาดฟิล์มกรองแสงที่ธุรกิจแปรผันสอดคล้องกับตลาดรถยนต์ โดยขายผ่านสองช่องทางหลักคือโชว์รูมและร้านค้าภายนอก ทั้งนี้ช่วงตลาดรถยนต์อยู่ในภาวะขาลง ผู้ประกอบการฟิล์มกรองแสงรายใหญ่ “ลามิน่า” พยายามปรับตัวหันไปจับสินค้าใหม่ๆที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ ทั้ง “เบรย์”ฟิล์มนิรภัยติดกระจกภายนอกจากสหรัฐอเมริกา “ทูเล่”อุปกรณ์บรรทุกสัมภาระและจับจักรยานจากสวีเดน และเครื่องเสียงติดรถยนต์ “โซนิค ดีไซน์”จากญี่ปุ่น รวมถึง”ไทรบอส” ผลิตภัณฑ์เคลือบปกป้องรถยนต์รถยนต์เรืออากาศยาน จากอังกฤษ

“เราพยายามเพิ่มโปรดักต์ที่หลากหลาย ซึ่งแต่ละตัวสามารถส่งเสริมการขายซึ่งกันและกัน ที่สำคัญยังช่วยให้ภาพลักษณ์ของบริษัทแข็งแกร่งขึ้น”

จันทร์นภา สายสมร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด กล่าว โดยบริษัทเน้นสื่อสารการตลาดถึงสินค้าที่มีเทคโนโลยีทันสมัย ครบทุกความต้องการ พร้อมให้ความมั่นใจในแบรนด์และการบริการหลังการขายแก่ลูกค้า โดยปีนี้ตั้งเป้ายอดขายเท่ากับปี 2559 คือ 760 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนฟิล์มกรองแสง 720 ล้านบาท และอื่นๆ 40 ล้านบาท

ด้านธุรกิจแบตเตอรี โดยผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแบรนด์ “ยีเอส” (GS) ที่ปัจจุบันมีส่วนแบ่งในตลาดทดแทนกว่า 40% ประเมินว่า ผู้ใช้รถในกรุงเทพจะนิยมแบตเตอรีแบบไม่ต้องเติมน้ำกลั่นมากขึ้น สอดคล้องกับการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ และไม่มีเวลาดูแลรักษารถ “ตลาดแบตเตอรี่แบบทดแทนมีมูลค่ากว่า1หมื่นล้านบาท โดยการแข่งขันยังคงดุเดือดเนื่องจากมีผู้เล่นหลายแบรนด์ ประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยน ยกตัวอย่าง ในเขตกรุงเทพ มากกว่า 50 %ของผู้ที่ใช้รถยนต์นั่ง มีการเลือกแบตเตอรี่แบบไม่ต้องเติมน้ำกลั่น (เมนเทแนนซ์ ฟรี)มากกว่าแบบเติมน้ำกลั่น” วรนินทร์ อัษฎามงคล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามยีเอส เซลล์จำกัด กล่าวและว่า

ส่วนกลยุทธ์ทางการตลาดปีนี้ มุ่งพัฒนาพันธมิตรคู่ค้ารายใหญ่ที่มีกว่า 150-160 รายให้เข้าร่วมโครงการ “ซิงเกิ้ลแบรนด์” ซึ่งปีที่ผ่านมามีผู้เข้าร่วมแล้วกว่า 30 ราย คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 80 ราย ส่วนคู่ค้ารายย่อยจะมีทีมดูแลพิเศษ ซึ่งมีมากกว่า 100 รายในปัจจุบัน ปีนี้บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตเกิน 7% ส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มกว่า 5% และคาดว่าภายใน2ปีข้างหน้าจะมีส่วนแบ่งการตลาดไม่ต่ำกว่า50%ของตลาดแบตเตอรีทดแทน

ด้านค่ายยางแบรนด์ไทยในช่วงปีที่ผ่านมา เริ่มมีการขยับหาพันธมิตรเพื่อสร้างความแข็งแกร่ง เริ่มตั้งแต่ “เคซี.วีล แอนด์ ไทร์” ที่เตรียมจับมือผู้ผลิตยางรถยนต์จีน จากเมืองซานตง เพื่อตั้งโรงงานในไทยผลิตยางรถยนต์ในกลุ่มเอสยูวีและพีพีวี

ลงทะเบียนเข้าร่วมสัมมนา คลิก!!!

ที่มาข่าวจาก : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 5 – 8 กุมภาพันธ์ 2560
อ่านข่าวเพิ่มเติม : www.thansettakij.com/2017/02/07/128613
ภาพประกอบจาก :
https://caraccessoriessupplier.files.wordpress.com/2012/07/car-accessories.jpg


@Line THAIPURCHASING
THAIPURCHASING.com !!! มี LINE Official แล้วรู้ยัง
สอบถามหาข้อมูลสินค้าหรือกิจกรรมต่างๆของเรา ได้ทุกวันผ่าน 

กดถูกใจ FanPage เพื่อติดตามกิจกรรมของเราได้ที่ :

กดถูกใจแฟนนเพจ คลิก PURCHASING Industrial Products
Facebook.com/thaipurchasing.tensho

sendLINE

Comment