นิสัยสุดแย่ในการขับรถ ที่ไม่ควรทำบนท้องถนน

     ทุกวันนี้มีรถใช้งานบนท้องถนนมากขึ้น และดูแล้วมันจะเยอะเกินถนนที่มีไว้ให้ใช้งานด้วยซ้ำไป ทำให้แต่ละคนเร่งรีบที่จะเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทางของแต่ละคน จนบางครั้งก็หลงลืม หรือจงใจทำในสิ่งที่ไม่ควรกระทำบนท้องถนนที่มีเพื่อนร่วมทางอยู่มากมาย

     ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้อาจเป็นปัญหา ทำให้กระทบกระทั่งกันบนท้องถนน ถ้าเบาหน่อยก็อาจจะโดนคู่กรณีบีบแตรเตือนเบาๆ ทีสองที หรืออาจไม่โดนบีบแตร แต่อาจโดนด่าบุพการี/ให้นิ้วกลางอยู่ในใจแล้วต่างคนต่างแยกกันไป แต่ถ้าหนักมากๆ คู่กรณีอาจถึงขั้นปาด หรือจอดรถขวางหน้า และลงมาหาเรื่องทะเลาะวิวาท อย่างที่มีให้เห็นในคลิป หรือในข่าวบ่อยๆ ฯลฯ

     ดังนั้นเราจึงรวบรวมวิธีการขับขี่รถแย่ๆ ที่ไม่ควรทำบนท้องถนนมาให้ดูกัน เพื่อคุณจะได้จำเอาไว้ว่า การขับขี่แบบนี้ไม่ควรทำ แถมมันยังอาจทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกด้วย

     1. ไม่เปิดไฟเลี้ยวขณะเปลี่ยนเลน หรือเปิดกระชั้นชิดแล้วเลี้ยวเลย ถือเป็นแรร์ไอเท็มที่หลายคนมองข้าม เพราะไม่ค่อยอยากจะเปิดใช้งานกัน ซึ่งจริงๆ แล้วไอเท็มชิ้นนี้คืออุปกรณ์มาตรฐาน ที่ทางค่ายรถยนต์ทุกค่ายทำออกมาให้โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่มแต่อย่างใด ดังนั้นจึงควรเปิดไฟเลี้ยวก่อนจะเลี้ยว หรือเปลี่ยนเลนทุกครั้ง (ดูรถด้านหลังด้วยว่าโล่งพอให้เราออกไปหรือไม่) เพื่อให้รถที่ตามหลังเห็น และจะได้ป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุตามมา

     2. ขับหวาดเสียว ปาดหน้าไปมา แซงเส้นทึบ การขับขี่แบบนี้ถือว่าอันตรายมากๆ เพราะที่ใดก็ตามที่มีเส้นทึบห้ามเปลี่ยนเลน นั่นคือจุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ เช่น ก่อนถึงยูเทิร์น คอสะพานขึ้น-ลง ทางโค้ง ฯลฯ และการขับปาดไปมาเพื่อให้ตัวเองไปเร็วที่สุด แทรกลัดคิวคนอื่นที่ต่อแถวกันอยู่ ก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ หรืออาจทำให้รถติดมากกว่าเดิม

     3. ขับคร่อมเลนถนน จะไปทางไหนก็ไม่ไป การขับไปซ้ายที ขวาที แป๊ปๆ วกกลับเข้ามาเลนเดิม แถมยังคร่อมเลนไปมา กินพื้นที่เลนข้างๆ อาจทำให้เกิดปัญหาขึ้นกับรถที่ขับตามหลัง เพราะเขาไม่สามารถรู้ได้ว่า คุณจะไปทางไหนกันแน่ และอีกอย่างเวลาเลี้ยวเข้า หรือเลี้ยวออก ก็ควรจะขับให้ตรงเลน ไม่เช่นนั้นอาจเฉี่ยวชน หรือเบียดกับรถคันอื่นได้

     4. จอดรถไม่ดูตาม้าตาเรือ ไฟฉุกเฉินไม่ใช่ไฟวิเศษที่จะทำให้คุณมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น หลายๆ ครั้งเรามักจะเห็นรถคันหน้าที่อยู่ดีๆ ก็เปิดไฟฉุกเฉินขึ้นมา ก่อนจะจอดสนิทไม่ขยับเขยื้อน เพื่อลงไปทำธุระ หรือลงไปซื้อของแถวๆ นั้น ถ้าหากถนนที่ใช้อยู่มีหลายเลนก็พอขยับเบี่ยงออกมาได้ แต่ถ้าเป็นถนนเลนเดียวสวนกัน การเบี่ยงเลนออกมาก็ถือว่าเสี่ยงอันตรายไม่น้อย เพราะรถอีกช่องทางหนึ่งขับสวนมานั่นเอง ทางที่ดีหาที่จอดในซอย หรือที่ปลอดภัยตรงอื่นดีกว่า (แต่ถ้าเปิดเพราะรถเสีย ก็อีกเรื่องนึง)

     5. ขับช้าแช่อยู่เลนขวาสุด ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่า เลนขวาคือเลนที่สามารถใช้ความเร็วได้สูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด การขับช้าแต่เข้าไปอยู่ในเลนขวา จึงไม่สมควรอย่างยิ่ง และหากเจอรถที่ขับมาด้วยความเร็วกว่า คุณควรจะหลบเข้าซ้าย เพื่อให้รถที่วิ่งเร็วกว่าแซงขึ้นไป และอย่าได้อ้างว่าใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด เพราะกฎหมายจราจรตามมาตราที่ 34 และมาตราที่ 35 บอกเอาไว้อย่างชัดเจนดังนี้ “เลนขวามีไว้สำหรับแซง และเมื่อมีรถที่เร็วกว่า ต้องหลบซ้ายเท่าที่กระทำได้” ซึ่งถ้ารู้ตัวว่าขับช้า ควรขับอยู่ในเลนอื่นจะดีกว่า

     6. ขับรถไปจี้ท้ายรถคันอื่นที่อยู่ด้านหน้า จริงๆ แล้วการขับรถตามหลังควรที่จะเว้นระยะเอาไว้ให้เหมาะสมกับระยะเบรค ทั้งนี้ในกฎหมายจราจรก็ได้บอกเอาไว้ อีกทั้งหากขับจี้มากๆ แล้วเกิดอุบัติเหตุชนท้ายรถคันข้างหน้าขึ้นมาจริงๆ ยังไงรถที่อยู่ด้านหลังก็มักจะเป็นฝ่ายผิดเสมอ

     7. นำรถขึ้นไปวิ่ง หรือจอดบนทางเท้า ตรงจุดนี้มันไม่สมควรเลยที่จะนำรถสัญจรไปมา หรือจอด เพราะทางเท้าคือพื้นที่ที่เอาไว้สำหรับให้คนเดิน การที่นำรถไปวิ่ง (โดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์) หรือจอด (โดยเฉพาะรถยนต์) ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ตำรวจสามารถจับปรับได้ทันที และมีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะขับรถไปชนคนเดินบนทางเท้า จนอาจทำให้มีเรื่องมีราวได้

     8. ขับรถย้อนศร ถือว่าอันตรายสุดๆ เพราะรถที่วิ่งอยู่ในเลนที่ถูกต้อง อาจไม่เห็น หรือไม่รู้ ว่ามีรถวิ่งย้อนศรขึ้นมา ซึ่งจริงๆ แล้วคนปกติจะไม่ทำกัน อีกทั้งหากเกิดอุบัติเหตุ ก็อาจทำให้เสียชีวิตได้ (ตายคนเดียวไม่พอยังอาจทำให้คนที่ขับมาในเลนที่ถูกต้องตายไปด้วย)

     สำหรับทั้งหมดนี้ ยังเป็นเพียงแค่ข้อหลักๆ เท่านั้น ยังมีแยกย่อยเอาไว้อีกมากมาย ดังนั้นเวลาขับขี่รถ ควรที่จะทำตามกฎหมายจราจรที่กำหนดไว้ เพื่อจะได้ไม่กิดอุบัติเหตุ และไม่ทำให้เพื่อนร่วมทางบนท้องถนนเกิดความเสี่ยงตามไปด้วย นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกันบนท้องถนนลดน้อยลงอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก : Sanook

THAIPURCHASING.com !!! มี LINE Official แล้วรู้ยัง
ติดตามกิจกรรมต่างๆของเรา ได้ทุกวันผ่าน LINE ID
เพื่อรับสิทธิพิเศษกิจกรรมต่างๆ ฟรีก่อนใคร