แบงก์ชาติมองค่าเงินบาทยังมีความผันผวน ทหารไทยลดดอกเบี้ยตาม

1.4K



แบงก์ชาติมองค่าเงินบาทยังมีความผันผวน ทหารไทยลดดอกเบี้ยตาม

 

นางสาววชิรา อารมณ์ดี ผู้อำนวยอาวุโสฝ่ายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงสถานการณ์ค่าเงินบาทในขณะนี้ว่า ค่าเงินบาทได้เริ่มกับมาอ่อนค่าลงชัดเจน ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 และมีการออกมาตรการผ่อนคลายการไหลออกของเงินทุน 9 มาตรการออกมา รวมทั้งธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้ออกมาแสดงความกังวลซึ่งการซื้อที่สูงเกินไปในตลาดหุ้น และตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ ส่งผลให้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 20 พ.ค.ค่าเงินบาทของไทยอ่อนค่าลงไป 2% และค่าเงินบาทที่เคลื่อนไหวในระดับ 33.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯมาระยะหนึ่ง สะท้อนให้เห็นว่าอัตราดังกล่าวเหมาะสมกับเศรษฐกิจไทยในขณะนี้

“ผู้นำเข้าส่งออกควรจะติดตามการเปลี่ยนแปลงและความผันผวนของเศรษฐกิจในประเทศ เศรษฐกิจต่างประเทศ และตลาดการเงินที่จะมีความผันผวนมากขึ้น และไม่ควรไว้วางใจว่าอัตราแลกเปลี่ยนจะเคลื่อนไหวเข้าทางตัวเองเสมอไป โดยควรจะทำประกันความเสี่ยงด้านเงินตราต่างประเทศ ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจไทยยังชะลอตัวและเศรษฐกิจโลกยังมีความเปราะบาง”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ นำร่องปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.13-0.30% เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ ล่าสุด นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย กล่าวว่า ธนาคารลดดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (เอ็มแอลอาร์) และดอกเบี้ยเงินกู้เบิกเกินบัญชี (เอ็มโออาร์) ลง 0.10% มีผลตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.เป็นต้นไป ส่งผลให้เอ็มอาร์อาร์ลดลงเหลือ 7.025% และเอ็มโออาร์ เหลือ 7.675%

ด้านนายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ธนาคารอยู่ระหว่างกำลังพิจารณาเรื่องอัตราดอกเบี้ย โดยจะทราบผลภายใน 1-2 วันนี้ ขณะที่นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารอยู่ระหว่างการพิจารณา เนื่องจากดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารช่วงที่ผ่านมาต่ำที่สุดในระบบ และเมื่อธนาคารใหญ่ทั้ง 2 แห่ง ลดดอกเบี้ยเงินกู้ ทำให้ดอกเบี้ยเงินกู้ปัจจุบันต่ำกว่าธนาคารกรุงไทยเล็กน้อย.

 

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก http://www.thairath.co.th/content/500341

sendLINE

Comment